ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ครม. เห็นชอบร่างถ้อยแถลง ร่วมของผู้นำอาเซียน-แคนาดา ในการประชุมสุดยอดอาเซียน-แคนาดา ในโอกาสครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-แคนาดา

วันที่ลงข่าว: 15/11/17

        พันเอกอธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุม ครม.เห็นชอบร่างถ้อยแถลง ร่วมของผู้นำอาเซียน-แคนาดา ในการประชุมสุดยอดอาเซียน-แคนาดา ในโอกาสครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-แคนาดา ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ สาระสำคัญของร่างถ้อยแถลง เน้นส่งเสริมความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับแคนาดาในช่วง 40 ปีด้านการเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ด้านประชาชนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ยกระดับความเป็นหุ้นส่วนเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน และสนับสนุนสันติภาพ เสถียรภาพ ความเจริญรุ่งเรือง และการพัฒนาอย่างยั่งยืนในประชาคมโลก และเห็นชอบต่อร่างแถลงการณ์ประธานการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศเอเชีย – ยุโรป ครั้งที่ 13 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 21 พฤศจิกายน 2560 ที่กรุงเนปีดอ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยสาระสำคัญจะเป็นเอกสาร ผลลัพธ์การประชุม เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในสาขา ต่าง ๆ ที่ประเทศสมาชิก ASEM ให้ความสำคัญ ทั้งความเท่าเทียมกัน การเคารพซึ่งกันและกัน การมีผลประโยชน์ร่วมกันเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยครอบคลุม ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การคมนาคม การท่องเที่ยว วัฒนธรรม การศึกษา ส่งเสริมสันติภาพ ให้คำมั่นต่อการต่อต้านการก่อการร้าย การใช้ความรุนแรง

       นอกจากนี้ ยังเห็นชอบร่างปฏิญญาโซล (Seoul Declaration) สาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของไทยในการพัฒนาความร่วมมือด้านการศึกษาร่วมกับแต่ละประเทศสมาชิกอาเซม ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาด้านอาชีวศึกษา และเห็นชอบบันทึกความเข้าใจด้านการปกป้องสุขอนามัยและระบาดวิทยาสุขภาวะของประชาชนระหว่างสำนักงานคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคและสวัสดิภาพของมนุษย์แห่งสหพันธรัฐเซียและกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทย โดยสาระสำคัญส่งเสริมความร่วมมือด้านการปกป้องสุขอนามัยและระบาดวิทยาสุขภาวะของประชาชนของประเทศไทยและรัสเซีย ในสาขางานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การเตรียมการป้องกันโรค การให้ความช่วยเหลือทางวิธีการและการปฏิบัติ การเข้าร่วมประชุมและการแลกเปลี่ยนข้อมูล ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขไทย และสำนักงานคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคและสวัสดิภาพของมนุษย์แห่งสหพันธ์รัฐรัสเซีย ได้ร่วมกันจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจและทั้งสองฝ่ายได้ให้ความเห็นชอบร่วมกัน

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก