ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

พม.ช่วยหญิงชราป่วยหนักเลี้ยงดูลูกชายที่ป่วยพิการที่ จ.นครนายก และช่วยเหลือเด็กหนุ่มวัย 16 ปี หารายได้จุนเจือครอบครัวที่ จ.กาฬสินธุ์

วันที่ลงข่าว: 14/11/17

        รมว.พม. กำชับ จนท. เร่งช่วยเหลือหญิงชราวัย 61 ปี ป่วยหนัก ช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ แต่ต้องรับภาระเพียงลำพังเลี้ยงดูลูกชายที่ป่วยพิการทางสมอง ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่ จ.นครนายก พร้อมชื่นชมเด็กหนุ่มสู้ชีวิตวัย 16 ปี ทำงานหารายได้จุนเจือครอบครัว เลี้ยงดูย่าแก่ชราวัย 75 ปี ที่ จ.กาฬสินธุ์ 

        วันนี้ (13 พ.ย. 60) เวลา 08.00 น. นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ 752/2557-2560 เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขและป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมี คณะผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมชั้น 8 กระทรวง พม. สะพานขาว กรุงเทพฯ

        พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีหญิงชราวัย 61 ปี มีอาการป่วยหนัก โดยตรวจพบก้อนเนื้อในช่องท้อง อีกทั้งยังช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ แต่ต้องรับภาระเพียงลำพังเลี้ยงดูลูกชายวัย 37 ปี ที่ป่วยพิการทางสมอง ควบคุมสติตัวเองไม่ได้ ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดนครนายก นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครนายก (พมจ.นครนายก) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านผู้สูงอายุและคนพิการ ซึ่งขณะนี้ ทีม One Home สังกัดกระทรวง พม. ในพื้นที่ ได้ลงพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือ พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น อีกทั้ง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลอาการป่วยของหญิงชราและลูกชายอย่างใกล้ชิด และการติดตามเยี่ยมบ้านดูแลอาการของผู้ป่วยอย่างเป็นระยะ รวมทั้ง การปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้มีความมั่นคง แข็งแรง และถูกสุขลักษณะ นอกจากนี้ ได้ช่วยเหลือให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องสวัสดิการสังคม เพื่อขอรับสิทธิตามกฎหมายตามความเหมาะสม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาวต่อไป

        พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีเด็กหนุ่มสู้ชีวิตวัย 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนแห่งหนึ่ง กำพร้าพ่อ-แม่ตั้งแต่เด็ก อาศัยเวลาว่างหลังเลิกเรียนและในวันหยุด ทำงานรับจ้างทุกอย่างเพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว และเลี้ยงดูย่าแก่ชราวัย 75 ปี และป้าที่ร่างกายไม่แข็งแรง ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ นั้น ตนขอชื่นชมเด็กหนุ่มคนดังกล่าว ที่มีจิตใจที่เข้มแข็ง มีความกตัญญู ความขยันหมั่นเพียร และมุมานะอดทน มีความตั้งใจช่วยเหลือครอบครัว โดยไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก นับว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของเด็กและเยาวชน ทั้งนี้ ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์จังหวัดกาฬสินธุ์ (พมจ.กาฬสินธุ์) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านเด็กและผู้สูงอายุของกระทรวง พม. พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และอุปกรณ์การศึกษา อีกทั้ง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการศึกษาของเด็กหนุ่มอย่างต่อเนื่องในระยะยาว รวมทั้ง การให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องสวัสดิการสังคม เพื่อขอรับสิทธิตามกฎหมายตามความเหมาะสม พร้อมให้คำแนะนำแก่ครอบครัวดังกล่าวในเรื่องการส่งเสริมการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ที่เพียงพอและมั่นคง สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ในระยะยาวต่อไป

        พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีเด็กชายวัย 2 ขวบ ที่เคราะห์ร้ายถูกงูเห่าฉก ทำให้เป็นแผลลุกลามตั้งแต่ข้อเท้าถึงหัวเข่า ไม่สามารถลุกเดินได้ ซึ่งผู้เป็นตาวัย 61 ปี ไม่มีเงินเพียงพอค่ารักษาพยาบาล เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน อีกทั้งต้องรับภาระเลี้ยงดูหลานถึง 4 คน วัย 2 - 6 ขวบ ทั้ง 5 ชีวิต อาศัยในบ้านสภาพเก่าทรุดโทรม ที่อำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยภูมิ (พมจ.ชัยภูมิ) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านเด็กและผู้สูงอายุของกระทรวง พม. พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และอุปกรณ์การศึกษา อีกทั้ง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลอาการป่วยของเด็กชายคนดังกล่าวอย่างใกล้ชิด รวมทั้งช่วยเหลือในเรื่องการศึกษาของเด็กทั้งหมดอย่างต่อเนื่องในระยะยาว และการซ่อมแซมปรับปรุงบ้านให้มีสภาพแข็งแรง ถูกสุขลักษณะ นอกจากนี้ ให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องสวัสดิการสังคม เพื่อขอรับสิทธิตามกฎหมายตามความเหมาะสม พร้อมให้คำแนะนำปรึกษาแก่ครอบครัวในเรื่องการส่งเสริมการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ที่เพียงพอและมั่นคงในระยะยาวต่อไป

 

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก