ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

แพทย์เตือนเบาหวานคุมไม่ดีเสี่ยงพิการและเสียชีวิต แนะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม งดหวาน หันมาออกกำลังกาย เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยฉุกเฉิน

วันที่ลงข่าว: 14/11/17

        รศ.พญ.ทิพาพร ธาระวานิช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่าเพื่อรับวันเบาหวานโลกที่กำลังจะมาถึงในวันพรุ่งนี้ แนะนำผู้ป่วยดูแลตัวเองให้ดีเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่ก่อให้เกิดอันตราย ทั้งนี้ จากข้อมูลของสมาพันธ์เบาหวานนานาชาติ รายงานว่าในปี 2558 ผู้มีป่วยโรคเบาหวาน 415 ล้านคนทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ 8 คนต่อชั่วโมง ส่วนใหญ่เกิดจากภาวะแทรกซ้อน ซึ่งภาวะแทรกซ้อน สามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือ ชนิดแทรกซ้อนแบบเฉียบพลัน คือ มีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ-สูง อย่างรุนแรง ส่วนชนิดที่ 2 คือ ชนิดแทรกซ้อนแบบเรื้อรัง เป็นลักษณะของโรคอัพฤกษ์ อัมพาต แขน - ขาไม่มีแรง โรคหัวใจ หรือ โรคจากการติดเชื้อ เช่น ติดเชื้อในกระแสเลือด หรือผู้ป่วยเบาหวานที่ขาเป็นแผล จนต้องตัดขา ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมเวชศาสตร์ฉุกเฉินแห่งประเทศไทยภายใต้โครงการป้องกันและส่งเสริมคนไทยไม่ให้เจ็บป่วยฉุกเฉิน สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ได้มีการจัดเวที ระดมทีมแพทย์ บุคลากร ผู้เชี่ยวชาญด้านงานเวชศาสตร์ฉุกเฉิน จากทั่วประเทศกว่า 100 คน จัดอบรมภายใต้แนวคิด "มีสุขภาพดี…คุมได้ แก้ไขได้ทัน…สรรค์ความช่วยเหลือ” แนะนำผู้ป่วยหากมีอาการเจ็บหน้าอกรุนแรง หอบ เหนื่อย หน้าและปากเบี้ยว พูดไม่ได้ แขน ขาอ่อนแรง ซึ่งเป็นอาการของโรคอัมพฤกษ์ - อัมพาต หรือมีไข้สูง มีแผลที่เท้าติดเชื้อบวมแดงขอให้รีบมาโรงพยาบาลโดยทันที พร้อมย้ำว่าเบาหวานไม่ใช่โรคที่เกี่ยวกับน้ำตาลเพียงอย่างเดียว แต่เกี่ยวกับหลอดเลือด ฉะนั้นต้องรักษาความดัน ไขมัน พบแพทย์ให้สม่ำเสมอ ออกกำลังกาย งดสูบบุหรี่ และลดน้ำหนัก

        ด้าน พญ.ฐิตินันท์ อนุสรณ์วงศ์ชัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่อมไร้ท่อและโรคเบาหวาน โรงพยาบาลเลิดสิน กล่าวว่ามีผลการศึกษาในต่างประเทศยืนยันแล้วว่า การแก้ไขวิถีการดำเนินชีวิต โดยการออกกำลังกายแอโรบิค สัปดาห์ละ 150 นาทีเป็นอย่างน้อย ลดอาหารหวานและอาหารที่ให้พลังงานเยอะ ทานอาหารตรงเวลา ลดปัจจัยเสี่ยงที่ควบคุมได้เอง สามารถชะลอการเกิดโรคเบาหวานในอนาคตได้ถึง ร้อยละ 28 โดยไม่ต้องอาศัยยาให้เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ซึ่งถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก