ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

เชิดชูเกียรติคนพิการต้นแบบ รมว.พม. มอบโล่เชิดชูเกียรติให้แก่นางสาวจิณจุฑา จุ่นวาที (น้องจ๊ะจ๋า) ที่พิการทางการเคลื่อนไหว แต่สู้ชีวิตจนเรียนจบปริญญาตรี

วันที่ลงข่าว: 17/10/17

        วันที่ 16 ต.ค. 60  เวลา 09.00 น. นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติคนพิการต้นแบบ พร้อมมอบเงินสนับสนุนบุคคลต้นแบบให้แก่นางสาวจิณจุฑา จุ่นวาที (น้องจ๊ะจ๋า) พิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย ภายใต้โครงการเสริมพลังคนพิการและชุมชน เพื่อสร้างโอกาส และความเท่าเทียมในสังคม ณ บริเวณโถง ชั้น 1 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ

        พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายให้ความสำคัญต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะการเสริมสร้างให้ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อมุ่งลดการเหลื่อมล้ำ และการสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการของรัฐ อันเป็นสิทธิพื้นฐานที่แสดงถึงความเท่าเทียมของสังคม ซึ่งการเข้าถึงบริการของรัฐของคนพิการ นอกจากการที่หน่วยงานของรัฐทุกภาคส่วนดำเนินการจัดบริการตามสิทธิของคนพิการแล้ว ยังมีการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับคนพิการด้วย อีกทั้งคนพิการและครอบครัวจำเป็นต้องเกิดการรับรู้ เรื่องสิทธิที่พึงได้รับตามกฎหมายของตนเอง ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) มีภารกิจในการพัฒนาศักยภาพและคุ้มครองสิทธิคนพิการ เพื่อให้สามารถเข้าถึงทั้งบริการสวัสดิการตามสิทธิที่พึงได้รับ ข้อมูลสำคัญ และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างครบถ้วน รวมทั้งการยกย่องคนพิการต้นแบบที่ได้รับความสำเร็จในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อเสริมสร้างเจตคติเชิงบวกของสังคมที่มีต่อคนพิการ

        พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการจัดกิจกรรมในวันนี้ เป็นการมอบโล่ยกย่องเชิดชูเกียรติคนพิการต้นแบบ และเงินสนับสนุนบุคคลต้นแบบให้แก่ นางสาวจิณจุฑา จุ่นวาที (น้องจ๊ะจ๋า) อายุ 23 ปี ซึ่งพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย ต้องเข้ารับการผ่าตัดจำนวน 34 ครั้ง แต่ไม่ย่อท้อต่อความพิการ ด้วยความมุมานะ มีความพากเพียรพยายามในการศึกษาเล่าเรียน จนสามารถสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี นอกจากความพากเพียรในการพัฒนาศักยภาพตนเองทางการศึกษา นางสาวจิณจุฑา ได้สู้ชีวิตและแสดงความรู้ ความสามารถ รวมทั้งศักยภาพ เพื่อให้คนรอบข้างและสังคม ได้เห็นเป็นการประจักษ์อย่างต่อเนื่อง อาทิ การแสดงความสามารถในเวทีการประกวด Miss Wheelchair Thailand 2012 ซึ่งได้รับตำแหน่งรองอันดับ 2 และการประกอบอาชีพเพื่อหารายได้ดูแลช่วยเหลือครอบครัวตั้งแต่วัยเรียนจนถึงปัจจุบัน

        พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่ออีกว่า นางสาวจิณจุฑา นับว่าเป็นคนพิการต้นแบบการพัฒนาตน พัฒนาคน และพัฒนาสังคม ด้วยความเพียรพยายามในการศึกษา ซึ่งประกอบด้วย 1) การพัฒนาตน นางสาวจิณจุฑา ได้พัฒนาศักยภาพและความสามารถของตนเอง ด้วยความสามารถในการปรับสภาพตนเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อมทางกายภาพและทางสังคมให้สามารถดำรงตนอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข 2) การพัฒนาคน นางสาวจิณจุฑา ได้ศึกษาหาความรู้ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจจนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี และนำความรู้ประสบการณ์มาใช้ในการดำรงชีวิตอย่างมีคุณค่า และ 3) การพัฒนาชุมชน และสังคม นางสาวจิณจุฑา มีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ อย่างสม่ำเสมอด้วยการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมเป็นแบบอย่างจนเป็นที่ชื่นชมยอมรับของสังคม ทั้งนี้ จากผลแห่งความดีและความสำเร็จในการพัฒนาตน พัฒนาคน และพัฒนาสังคม รวมทั้งสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ของนางสาวจิณจุฑา กระทรวง พม. จึงได้ประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติและมอบโล่คนพิการต้นแบบให้แก่ นางสาวจิณจุฑา เพื่อเป็นต้นแบบ คนพิการที่ได้รับความสำเร็จในการพัฒนาคุณภาพชีวิต และเป็นกำลังใจในการดำเนินกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม นอกจากนี้ พก. โดยกองกองทุนและส่งเสริมความเสมอภาคคนพิการ ยังได้หาแนวทางการให้ความช่วยเหลือในระยะยาวแก่นางสาวจิณจุฑา ด้วยการเตรียมจัดหางานที่เหมาะสมและมั่นคง เพื่อให้สามารถพึ่งพาตนเองและดูแลช่วยเหลือครอบครัวได้ในระยะยาวต่อไป

        “การดำเนินโครงการเสริมพลังคนพิการและชุมชน เพื่อสร้างโอกาสและความเท่าเทียมในสังคมในครั้งนี้ นับเป็นกิจกรรมเพื่อให้คนพิการ ครอบครัว และชุมชน ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ด้วยการเสริมสร้าง เจตคติเชิงบวกต่อคนพิการ ทำให้สังคมได้ประจักษ์ว่าคนพิการไม่เป็นภาระของสังคม แต่เป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญในการพัฒนาสังคมไทย ทั้งนี้ ขอให้สังคมร่วมกันสร้างโอกาส เกียรติ กำลังใจ แก่คนพิการ เพื่อการพัฒนาสังคมที่เข้มแข็งและเสมอภาคอย่างยั่งยืนต่อไป”พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวในตอนท้าย

 

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก