ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ตรวจสถานที่ถวายดอกไม้จันทน์อำเภอบ้านแพ้ว – อำเภอกระทุ่มแบน

วันที่ลงข่าว: 05/10/17

         เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 4 ตุลาคม 2560 นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานที่จัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ เนื่องในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ศาลาพิพัฒน์มงคล วัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร ตำบลยกกระบัตร อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร โดยมีพระมงคลพัฒนาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอบ้านแพ้ว เจ้าอาวาสวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร นางสุนีย์ สุขสุเดช ปลัดอำเภอบ้านแพ้ว รักษาราชการแทนนายอำเภอบ้านแพ้ว และหัวหน้าส่วนการงานที่รับผิดชอบฝ่ายต่างๆ ร่วมให้ข้อมูลแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร

        พระมงคลพัฒนาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอบ้านแพ้ว เจ้าอาวาสวัดหลักสี่ราษฎร์สโมสร กล่าวว่า ด้วยวัดหลักสี่นั้นเป็นวัดที่มีพื้นที่บริเวณค่อนข้างกว้างใหญ่ จึงมีความพร้อมสำหรับการจัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ โดยเบื้องต้นนั้นก็ได้มีการประดับพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมฉัตร 9 ชั้น ตามรูปแบบที่กำหนดไว้ ส่วนเบื้องหลังนั้นจะประดับฉากเป็นภาพของพระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง เพื่อให้ประชาชนที่มาร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ มีความรู้สึกว่าได้เข้าไปถวายดอกไม้จันทน์ ณ พระเมรุมาศท้องสนามหลวง นอกจากนี้ก็ได้มีการจัดเตรียมพื้นที่บริเวณโดยรอบทั้งข้างนอกและข้างในให้เป็นที่สำหรับประชาชนที่จะเดินทางมาถวายดอกไม้จันทน์ จะไม่อนุญาตให้นำรถเข้ามาจอดโดยเด็ดขาด ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนมาเข้าร่วมพิธีไม่ต่ำกว่า 25,000 คน และได้จัดเตรียมเก้าอี้ไว้พร้อมสำหรับผู้ที่จะต้องนั่งรอถวายดอกไม้จันทน์ หรือร่วมพิธีในตอนกลางคืน นอกจากนี้ในส่วนของพานที่จะรับดอกไม้จันทน์นั้นก็จะมีทั้งหมด 10 พานด้วยกัน และที่สำคัญคือ ยังจะได้มีการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช อีกด้วย

         นางสุนีย์ สุขสุเดช ปลัดอำเภอบ้านแพ้ว รักษาราชการแทนนายอำเภอบ้านแพ้ว กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการเตรียมความพร้อมของอำเภอบ้านแพ้วมีความก้าวหน้าไปมาก ซึ่งในส่วนของการจัดประกอบซุ้มให้สำเร็จเรียบร้อยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ ส่วนการกางเต็นท์และวางเก้าอี้ก็จะดำเนินการในวันที่ 16 ตุลาคม ขณะที่เรื่องของการจัดเจ้าหน้าที่ในทุก ๆ ฝ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความสงบการจราจร รวมถึงจิตอาสาก็ได้จัดเตรียมแบ่งภาระหน้าที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ทางด้านการพยาบาลก็มีการจัดพื้นที่ให้บริการทั้งหมด 3 จุด ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อการให้บริการประชาชน รวมทั้งยังมีการจัดเจ้าหน้าที่ไว้คอยดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการเป็นการเฉพาะอีกด้วย ส่วนเรื่องของการประดับสถานที่ให้สวยงามสมพระเกียรติ ก็จะมีการเปิดรับดอกดาวเรืองจากพี่น้องประชาชนอำเภอบ้านแพ้ว พร้อมกับพิธีทำบุญเพื่อให้การจัดงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยในวันที่ 13 ตุลาคม และจะมีการนำดอกดาวเรือง จำนวน 30,000 ต้น มาประดับทั่วบริเวณงาน โดยเฉพาะทางเข้าออกให้ดูสวยงามสมพระเกียรติ

        จากนั้นในเวลา 10.00 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และคณะ ได้เดินทางมาที่วัดนางสาว ตำบลท่าไม้ อำเภอกระทุ่มแบน เพื่อตรวจเยี่ยมสถานที่จัดซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ของอำเภอกระทุ่มแบน โดยมีพระครูธรรมรัต เจ้าอาวาสวัดนางสาว นายวิรัตน์ ไชยสิทธิ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดพิธีทุกฝ่ายเข้าร่วม เพื่อรายงานข้อมูลการเตรียมความพร้อมแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด เช่นเดียวกัน ซึ่งในส่วนของวัดนางสาวนั้น ได้ใช้ศาลาการเปรียญหลังใหญ่เป็นสถานที่จัดพิธีดังกล่าว มีทางขึ้นลงแบ่งเป็นสองฝั่งชัดเจน ส่วนบริเวณลานจอดรถด้านหน้าก็จะตั้งเต็นท์ให้เป็นที่รับรองผู้มาเข้าร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ โดยคาดว่าจะรองรับได้ประมาณ 5,000 – 8,000 คน นอกจากนี้การเตรียมความพร้อมทั้งทางด้านสถานที่ การประดับสถานที่ เจ้าหน้าที่ประจำฝ่ายงานต่าง ๆ ก็ได้มีการแบ่งภาระหน้าที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่จะมีการประชุมเพื่อซักซ้อมและทำความเข้าใจกันอีกครั้ง ในช่วงก่อนถึงงานพระราชพิธี

        ด้านนายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เน้นย้ำนายอำเภอและผู้รับผิดชอบงานด้านต่างๆ ของทั้งอำเภอบ้านแพ้ว และอำเภอกระทุ่มแบน ถึงเรื่องของการจัดงานพระราชพิธีต้องให้เสร็จเรียบร้อยทันต่อห้วงเวลาที่กำหนด อีกทั้งยังขอให้ทุกคนช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงช่วงเวลาในการจัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ และขอความร่วมมือประชาชน ห้างร้าน สถานประกอบการต่างๆ งดงานรื่นเริงทุกประเภท อีกทั้งยังขอให้มีการคำนวนปริมาณคนที่จะมาเข้าร่วมเพื่อจะได้เตรียมความพร้อมในการรองรับได้อย่างเต็มที่ มีการตั้งจุดพักคอย มีจิตอาสาคอยดูแล และอีกประเด็นหนึ่งคือ การควบคุมความเป็นระเบียบเรียบร้อยในช่วงพิธีถวายดอกไม้จันทน์ โดยเฉพาะเรื่องของการถ่ายภาพนั้น ขอให้เป็นช่างภาพที่ทางอำเภอจัดเตรียมไว้หรืออนุญาตให้ถ่ายภาพในงานพระราชพิธีฯ ได้เท่านั้น ส่วนประชาชนที่มาร่วมงานขอให้งดถ่ายภาพ เนื่องจากงานดังกล่าวนั้น เป็นงานพระราชพิธีสำคัญ ต้องให้มีความสำรวม เป็นระเบียบเรียบร้อย และสมพระเกียรติที่สุด

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก