นายชูเกียรติ สิงห์สูง นายกสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สำหรับการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 9 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นั้น ในส่วนของสมาคมฯ ส่งนักกีฬา เข้าแข่งขัน 11 ชนิดกีฬา โดยทำผลงาน ได้ 39 เหรียญทอง 46 เหรียญเงิน 61 เหรียญทองแดง รวม 146 เหรียญ ซึ่งผลงานที่ได้บางชนิดกีฬาอาจจะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย 

       “อาจจะดูเหมือนว่าในอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งนี้ ที่มาเลเซีย บางชนิดกีฬาไม่ประสบความสำเร็จเหมือนครั้งก่อน ที่สิงคโปร์ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ที่ได้เหรียญมากกว่านี้ เหตุผลที่บางชนิดกีฬาประสบความสำเร็จค่อนข้างน้อย เนื่องจากว่า หลายๆ กีฬาโดนตัดอีเวนท์ที่ไทยถนัดออกหลายๆ อีเวนท์ และเพิ่มอีเวนท์ที่ไทย ไม่มีนักกีฬาเข้าแข่งขันเข้าไปแทน บางชนิดกีฬาก็ทำได้ตามเป้าหมาย”

      “สำหรับ ในอนาคตข้างหน้า ยังมีโปรแกรมแข่งขัน อาจจะให้นักกีฬาพักสักระยะหนึ่ง โดยในส่วนของเอเชียนพาราเกมส์ ปีหน้า ที่อินโดนีเซียจะเก็บตัว วันที่ 11 ม.ค.ปี 61 ส่วนการเตรียมนักกีฬาเข้าแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ ปี 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จะเก็บตัววันที่ 11 ธ.ค.ปีนี้ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”

     “สำหรับการเพิ่มนักกีฬาดาวรุ่งนั้น จะพยายามสร้างนักกีฬาในอีเวนท์ที่ไทยไม่มีขึ้นมาก่อน ส่วนบางชนิดกีฬาที่ไม่ประสบความสำเร็จ เราอาจจะมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างนักกีฬา ขึ้นมาใหม่ เพื่อให้กีฬาชนิดนั้นได้ประสบความสำเร็จมากขึ้นกว่าเดิม โดยหลังจากเสร็จภาระกิจนี้แล้ว ในอนาคตอาจจะมีการหารือของคณะกรรมการเตรียมทีมนักกีฬาที่มีอยู่แล้ว โดยจะมีการหารือ ปรึกษาเพื่อหาจุดบกพร่องของแต่ละชนิดกีฬา จะได้มาแก้ไขเพิ่มเติม”

     “ในส่วนของสมาคมกีฬาคนพิการฯ ก่อนหน้านี้ ได้มีการประชุมหารือตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการหารือกันภายในสำหรับทุกชนิดกีฬาที่เข้าแข่งขัน ซึ่งการประชุมที่ผ่านมา เราได้หารือกับชนิดกีฬาต่างๆ ในแต่ละชนิดกีฬา ถึงจุดบกพร่อง ที่ทำให้พลาดเหรียญ เราได้พูดคุยกันถึงข้อบกพร่อง จุดอ่อน จุดแข็ง เรื่องที่แต่ละกีฬาต้องแก้ไขปรับปรุงใหม่ 

     “ในปัจจุบันนี้ ต้องยอมรับว่าทั่วโลกเริ่มหันมาสนใจนักกีฬาคนพิการมากขึ้น ทำให้ได้รับการยอมรับจากสังคมมากขึ้น ในส่วนของชาวไทย อยากให้ประชาชนทั่วไป ได้หันมาสนใจ และส่งแรงใจ แรงเชียร์ สำหรับนักกีฬาคนพิการมากยิ่งขึ้น เพราะว่าแรงเชียร์เหล่านี้จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ นักกีฬาคนพิการประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นไป นำความชื่นใจมาสู่พี่น้องชาวไทยมากขึ้น”