ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

พม.เร่งช่วยเหลือครอบครัวหญิงชรารับภาระเลี้ยงดูหลานสาวพิการซ้ำซ้อนที่ จ.นครราชสีมาและเร่งช่วยเหลือครอบครัวเด็กหญิงป่วยเป็นเนื้องอกในสมองและตาบอด 1 ข้าง ที่ จ.พัทลุง

วันที่ลงข่าว: 28/09/17

       วันนี้ (27 ก.ย. 60) พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ร่วมประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ 722/2557-2560 เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว

       พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีหญิงชราวัย 79 ปี ต้องรับภาระเพียงลำพังเลี้ยงดูหลานสาววัย 29 ปี พิการซ้ำซ้อน ทั้งหูหนวก ตาบอด และพัฒนาการด้านสมองช้า มีพฤติกรรมไม่ชอบสวมใส่เสื้อผ้า และกินอาหารจากพื้น จึงจำเป็นต้องเลี้ยงดูอยู่ในห้องปูนทึบ สภาพคับแคบและเก่าทรุดโทรม มานานกว่า 10 ปี ครอบครัวมีฐานะยากจนที่อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมา(พมจ.นครราชสีมา) เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านผู้สูงอายุ และคนพิการของกระทรวง พม. พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นอีกทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลของหลานสาวอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องสวัสดิการสังคม เพื่อขอรับสิทธิตามกฎหมายตามความเหมาะสม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาวต่อไป

       พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีเด็กหญิงวัย 12 ปี ที่ป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง และตาบอด 1 ข้าง อาศัยอยู่กับพ่อ-แม่ และพี่น้องชาย-หญิงอีก 2 คน ทั้ง 5 ชีวิต อาศัยในเพิงพักสภาพเก่าทรุดโทรมใกล้ผุพัง โดยการใช้ป้ายไวนิลขึงทำเป็นผนังกันลม มีเพียงผู้เป็นพ่อที่ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว ที่อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพัทลุง (พมจ.พัทลุง) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ตามภารกิจด้านเด็ก และคนพิการของกระทรวง พม. พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และอุปกรณ์การศึกษา รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลของเด็กหญิงดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือในเรื่องการศึกษาของเด็กทั้งหมดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง การปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม ถูกสุขลักษณะ และมั่นคงเหมาะสมกับคนพิการ รวมถึงการให้คำปรึกษาแก่ครอบครัวในเรื่องสวัสดิการทางสังคม เพื่อขอรับสิทธิตามกฎหมายตามความเหมาะสม และการส่งเสริมการประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้ที่เพียงพอและมั่นคงสำหรับครอบครัวในระยะยาวต่อไป
 

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก