เครือข่ายจิตอาสาประชารัฐประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่ อ.บางสะพาน ช่วยเหลือ ครอบครัวคนพิการ 4 ชีวิต ฐานะลำบาก เงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ไม่เพียงพอดำรงชีวิต

       เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 กันยายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเครือข่ายจิตอาสาประชารัฐประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่ บ้านเลขที่ 81/5 ม.5 ต.พงศ์ประศาสน์ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภายหลังจากได้รับแจ้งว่า บ้านหลังดังกล่าว

เป็นของครอบครัวคนพิการ 4 ชีวิต อาศัยอยู่กันด้วยความยากลำบาก เงินช่วยเหลือสนับสนุนจากทางรัฐบาลไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ

       เรือโทกฤษ ศรีเพ็ญ เลขา สมัชชาสุขภาพ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายยูซบ โต๊ะวัง แกนนำเครือข่ายจิต อาสาประชารัฐจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำเครือข่ายในพื้นที่เดินทางไปทำการตรวจสอบ ที่บ้านหลังดังกล่าว สภาพ

เป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีสภาพทรุดโทรม บริเวณรอบบ้านมีต้นหญ้าขึ้นปกคลุม กิ่งไม้แผ่ขยายไปปกคลุมหลังคาบ้าน โดยภายในบ้าน มีนางยะ อ่วมเล็ก อายุ 78 ปี (ยาย) เป็นเจ้าของบ้าน ป่วยพิการ ทางสายตามองไม่เห็นทั้งสองข้าง แขนขาอ่อนแรงเดินไม่ได้ อีกทั้งเป็นโรคลำไส้อักเสบ

       นายจรูญ อ่วมเล็ก อายุ 54 ปี ลูกชายที่พิการ ตาข้างซ้ายมองไม่เห็น แขนและขาลีบ นางสาวนัยนา อ่วมเล็ก หลาน อายุ 25 ปี พิการตาทั้งสองข้างมองไม่เห็น และเด็กหญิงณัชณิชา ศิริเทพ อายุ 7 ปี เป็นโรคต้อในตามองเห็นไม่ชัดเจน โดยสภาพภายในบ้านแออัด เต็มไปด้วยสิ่งของต่างๆ ที่วางระเกะระกะเต็มบ้าน เพราะไม่มีกำลังพอที่จะเคลื่อนย้ายหรือการทำความสะอาด โดยนางยะ จะได้เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 700 บาท

       นางสาวนัยนา ได้รับเบี้ยคนพิการ 800 บาท รวม 1,500 บาทต่อเดือนเท่านั้น ส่วนนายจรูญ ได้ไปช่วยขายไอศกรีมได้วันละประมาณ 100 บาท และตระเวนเก็บของเก่าขายทำให้มีรายได้ไม่พอเลี้ยงครอบครัว
       ในเบื้องต้นทางเครือข่ายจึงได้ประสานไปยัง นายประกอบ คงทัพ นายก อบต.พงษ์ประศาสน์ เพื่อขอสนับสนุนรถกระเช้า มาร่วมกับจิตอาสาฯตัดต้นไม้ที่ขึ้นปกคลุมหลังคาบ้าน ตัดหญ้าบริเวณรอบบ้านเพื่อป้องกันสัตว์มีพิษ และได้ช่วยกัน เก็บกวาดเช็ดถูภายในบ้าน เพื่อให้สะอาดสามารถจะอยู่พักอาศัยให้ปลอดจากโรคต่างๆ และเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี

       นายยูซบ โต๊ะวัง แกนนำเครือข่ายจิตอาสาประชารัฐจังหวัดประจวบฯ เปิดเผยว่า "เครือข่ายจิตอาสาฯ มีความโอบอ้อมอารีพร้อมที่จะช่วยเหลือดูแลกัน รับผิดชอบสังคมร่วมกัน เป็นการสร้างวัฒนธรรมใหม่ให้กับสังคมไทยที่งดงาม ด้วยความมีอัตลักษณ์ เอกลักษณ์ ของความเป็นไทย ที่นับวันค่อยๆ หายไป เพื่อให้ทุกคนมีรอยยิ้ม ให้เกิดความยั่งยืนที่แท้จริง ในการที่จะพอช่วยกันพัฒนาประเทศชาติ

       "คำว่าจิตอาสาในที่นี้ก็คือการ เกิดขึ้นในจิตใจของทุกภาคส่วน ข้าราชการ นักการเมือง ท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาควิชาการ สามารถร่วมมือกันให้ความช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก โดยทางเครือข่ายได้ระดมชาว

จิตอาสาฯทุกภาคส่วนมาช่วยกันช่วยเหลือคนบอบบางทางสังคม โดยมีไม่มีการแบ่งแยกกันทางศาสนา ทั้งพุทธ และ อิสลาม มาร่วมแรงร่วมใจช่วยกัน"