ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

พม.เร่งช่วยเหลือครอบครัวยากจนมีลูกป่วยโรคศีรษะโต ที่ย่านหนองจอก กทม. และชื่นชมหญิงพิการทางสติปัญญาที่สู้ชีวิตทำงานช่วยเหลือครอบครัว ที่ จ.สุรินทร์

วันที่ลงข่าว: 25/09/17

       วันนี้ (22 ก.ย. 60) เวลา 08.00 น. นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ 719/2557-2560 เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 8 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ

       พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีเด็กชายวัย 9 เดือน ป่วยเป็นโรคศีรษะโต มีอาการชักเกร็งที่แขนและขา ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อาศัยอยู่กับแม่ที่ต้องลาออกจากงานเพื่อมาอยู่ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด มีเพียงสามีเพียงคนเดียวที่ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวที่มีฐานะยากจน ที่ย่านหนองจอก กรุงเทพฯ นั้น ตนได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวง พม. ได้แก่ กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) และกรมพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านเด็กและคนพิการของกระทรวง พม. พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลอาการป่วยของเด็กชายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องสวัสดิการสังคม เพื่อขอรับสิทธิตามกฎหมายตามความเหมาะสม รวมถึงการส่งเสริมการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ที่เพียงพอและมั่นคงสำหรับครอบครัวในระยะยาวต่อไป

       พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีหญิงวัย 29 ปี มีความพิการทางสติปัญญาตั้งแต่กำเนิดอีกทั้งป่วยเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งอาศัยอยู่กับน้องสาวและหลานอีก 2 คน ครอบครัวมีฐานะยากจน แต่สู้ชีวิตด้วยการรับจ้างทำงานในร้านเสริมสวย เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว ทั้ง 4 ชีวิต อาศัยในเพิงสังกะสีสภาพเก่าทรุดโทรมใกล้ผุพัง ที่อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ นั้น ตนขอชื่นชมหญิงดังกล่าวที่มีความตั้งใจจริงและความขยันหมั่นเพียร ในการช่วยเหลือครอบครัว โดยไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและความยากลำบากที่เกิดความพิการ นับว่าเป็นตัวอย่างที่ดีเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ (พมจ.สุรินทร์) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านเด็ก เยาวชน และคนพิการของกระทรวง พม. พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นและเงินสงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลของหญิงพิการดังกล่าวอย่างต่อเนื่องและการศึกษาของเด็กในระยะยาว อีกทั้งให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับการฝึกอาชีพและทุนกู้ยืมประกอบอาชีพคนพิการ
 

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก