ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

บริการสุนัขนำทางเพื่อคนตาบอด หนุนคนพิการเข้าถึงสิทธิเท่าเทียม

วันที่ลงข่าว: 19/09/17

   
       กรุงเทพฯ * พม.จับมือภาคีเครือข่ายลงนามบันทึกความร่วมมือการจัดบริการสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอดครั้งแรกในประเทศไทย ร่วมส่งเสริมให้คนพิการสามารถเข้าถึงสิทธิในสังคมอย่างเท่าเทียม และสามารถดำรงชีวิตอิสระในสังคม

       นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) การจัดบริการสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอดในประเทศไทย ระหว่าง พม.ร่วมกับกองทัพบก บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธีจำนวน 50 คน ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ

       พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดย "ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" และมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เพื่อให้เข้าถึงสิทธิและสวัสดิการอย่างเท่าเทียมกันในสังคม อาทิ การจัดสวัสดิการเบี้ยความพิการ การจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้สามารถดำรงชีวิตอิสระ รวมถึงส่งเสริมอาชีพและการมีงานทำเพื่อการพึ่งพาตนเองได้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จึงมีนโยบายจัดบริการสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอดในประเทศไทยเพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเดินทางของคนตาบอด และสอดคล้องกับพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2556 ซึ่งระบุว่า คนพิการมีสิทธิเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้จากสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะ ตลอดจนสวัสดิการและความช่วยเหลืออื่นจากรัฐ โดยมีสิทธิที่จะนำสัตว์นำทาง เครื่องมือหรืออุปกรณ์นำทางหรือเครื่องช่วยความพิการใดๆ ติดตัวไปในยานพาหนะหรือสถานที่ต่างๆ โดยได้รับการยกเว้น

       รมว.พม.กล่าวอีกว่า การจัดบริการสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอดในประเทศไทยนับเป็นความริเริ่มครั้งแรก ซึ่งกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายประชารัฐด้านสังคม ได้แก่ กองทัพบก โดยกรมการสัตว์ทหารบก สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย และบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ได้จัดพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือการจัดบริการสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอดในประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านการจัดสวัสดิการให้แก่คนพิการทางการเห็นในประเทศ ให้สามารถออกสู่สังคมภายนอกและใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติ

       ทั้งนี้ ในแต่ละหน่วยงานมีหน้าที่ ดังนี้ 1.กองทัพบกได้มอบหมายกรม การสัตว์ทหารบกสนับสนุนด้านกำลังพลชุดครูต้นแบบที่ผ่านการฝึกอบรมจากผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ โดยชุดครูฝึกต้นแบบจะต้องสามารถถ่ายทอดให้กับบุคลากรชุดต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ การสนับสนุนกำลังพลในการเลี้ยงดูสุนัขของโครงการในระยะแรก และการจัดทำแนวทางการฝึกสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอด รวมทั้งสนับสนุนอาคาร และสถานที่ สำหรับการฝึกและการเลี้ยงสุนัขในระยะแรก

       2.บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด สนับสนุนการจัดเตรียมและอาหารสุนัขตามปริมาณที่เหมาะสม และ 3.สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศ ไทยสนับสนุนและคัดเลือกคนพิการทางการเห็น เข้ารับการฝึกตามหลักสูตรการจัดบริการสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอดในประเทศไทย

       พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการลงนามบันทึกความร่วมมือในวันนี้ได้แบ่งเป็น 2 ชุด โดยชุดแรกเป็นการลงนามร่วมกันระหว่าง พม.กับกองทัพบก สำหรับชุดที่ 2 เป็นการลงนามร่วมกันระหว่าง พม. และบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ พก.ดำเนินการประสานความร่วมมือกับองค์กรทั้งในและต่างประเทศ ในการสนับสนุนการนำเข้าครูฝึกและสุนัขจากต่างประเทศ พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจำเป็น การประสานขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน พร้อมทั้งสนับสนุนด้านบุคลากรและสถานที่ เพื่อเตรียมการจัดตั้งเป็นสถาบันการจัดบริการสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอดในประเทศไทยต่อไป

       "การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นการริเริ่มครั้งแรกของประเทศไทยในการขับเคลื่อนการจัดบริการสุนัขนำทางสำหรับคนตาบอด นับเป็นการแสดงถึงพลังของความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในรูปแบบประชารัฐ ในการส่งเสริมให้คนพิการสามารถเข้าถึงสิทธิและอยู่ในสังคมอย่างเท่าเทียม ทั้งนี้ ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้คนพิการได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิต สามารถดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี ภายใต้แนวคิด "การเปลี่ยนคนพิการ จากภาระให้เป็นพลังของสังคมต่อไป" พล.ต.อ.อดุลย์กล่าวในตอนท้าย.

 

ที่มาของข่าว www.ryt9.com
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก