ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

พม.ช่วยเหลือเด็ก 4 พี่น้องหารายได้จุนเจือครอบครัวและเป็นทุนการศึกษา ที่ จ.เพชรบุรี พร้อมเร่งช่วยครอบครัวผู้ด้อยโอกาสที่ จ.นครศรีธรรมราช และบุรีรัมย์

วันที่ลงข่าว: 25/08/17

รมว.พม. ชื่นชม 4 พี่น้อง วัย 10-16 ปี กำพร้าพ่อ-แม่ แต่สู้ชีวิตทำกล้วยฉาบขาย หารายได้จุนเจือครอบครัวและเป็นทุนการศึกษา ที่ จ.เพชรบุรี พร้อมกำชับ จนท. เร่งช่วยเหลือครอบครัวผู้ด้อยโอกาสและประสบปัญหาทางสังคม ที่ จ.นครศรีธรรมราช และบุรีรัมย์ 

 

        วันที่ 24 ส.ค. 60  เวลา 07.30 น. นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ 698/2557-2560 เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 8 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ

        พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีพบเด็ก 4 คน วัย 10-16 ปี ซึ่งเป็นพี่น้องกัน กำพร้าพ่อ-แม่อาศัยอยู่กับป้า ครอบครัวมีฐานะยากจน แต่สู้ชีวิต อาศัยเวลาว่างหลังเลิกเรียนและในวันหยุดช่วยกันทำกล้วยฉาบไปตระเวนขายในหมู่บ้านและตลาด เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัวและเป็นทุนการศึกษา ทั้ง 5 ชีวิตอาศัยในบ้านเช่าสภาพเก่าทรุดโทรม ที่อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี นั้น ตนขอชื่นชมเด็กทั้ง 4 คน ที่มีความขยันหมั่นเพียร กตัญญู มุมานะอดทน มีความตั้งใจช่วยเหลือครอบครัว โดยไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก นับว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของเด็กและเยาวชน ทั้งนี้ ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบุรี (พมจ.เพชรบุรี) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านเด็กของกระทรวง พม. พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น อุปกรณ์การศึกษา อีกทั้ง ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการศึกษาของเด็กทั้ง 4 คนอย่างต่อเนื่องในระยะยาว นอกจากนี้ ให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องการส่งเสริมการประกอบอาชีพแก่ผู้เป็นป้า เพื่อสร้างรายได้ที่เพียงพอและมั่นคงในระยะยาวต่อไป

       พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีเด็กหญิงวัย 2 ขวบ ป่วยเป็นโรคเยื่อหุ้มไขสันหลังเปิด ทำให้ขาพิการทั้ง 2 ข้าง เดินไม่ได้ อาศัยอยู่กับแม่ที่ป่วยเป็นโรคลมชัก และต้องลาออกจากงานมาอยู่ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ด้านสามีทอดทิ้งหนีไปมีครอบครัวใหม่ ทั้ง 2 ชีวิตอาศัยในบ้านสภาพเก่าทรุดโทรม ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และกรณีเด็กชายวัยเพียง 3 เดือน ป่วยเป็นโรคเนื้องอกในสมอง ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา อาศัยอยู่กับผู้เป็นแม่ โดยเด็กชายดังกล่าวจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่ครอบครัวมีฐานะยากไม่มีเงินเพียงพอค่ารักษาพยาบาล ที่จังหวัดบุรีรัมย์ นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ทั้ง 2 จังหวัด ได้แก่ พมจ.นครศรีธรรมราช และ พมจ.บุรีรัมย์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านเด็กของกระทรวง พม. พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลอาการป่วยของเด็กทั้ง 2 คนอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องสวัสดิการสังคม เพื่อขอรับสิทธิตามกฎหมายตามความเหมาะสม อาทิ การให้คำแนะนำปรึกษาแก่ครอบครัวดังกล่าวในเรื่องการส่งเสริมการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ที่เพียงพอและมั่นคง สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ในระยะยาวต่อไป

 

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก