ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

รมว.พม. ชื่นชมและให้กำลังใจศิลปิน S2S ที่ร้องเพลงเปิดหมวกร่วมกับศิลปิน True เพื่อหารายได้สมทบทุนช่วยเหลือคนพิการ ที่ประสบภัยน้ำท่วม

วันที่ลงข่าว: 15/08/17

รมว.พม. ชื่นชมและให้กำลังใจศิลปิน S2S ที่ร้องเพลงเปิดหมวกร่วมกับศิลปิน True เพื่อหารายได้สมทบทุนช่วยเหลือคนพิการ ที่ประสบภัยน้ำท่วม ในกิจกรรม “รวมน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคอีสาน”

        พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวง พม. ลงพื้นที่ให้กำลังใจศิลปิน S2S ในกิจกรรม “รวมน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคอีสาน” ซึ่งเป็นกิจกรรมร้องเพลงเปิดหมวกร่วมกับศิลปิน True เพื่อหารายได้สมทบทุนช่วยเหลือคนตาบอดและคนพิการอื่นๆ ที่ประสบภัยอุทกภัยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ บริเวณหน้าตึกใยแก้ว อาคารทรูทาวเวอร์ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่าโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากสถานการณ์ดังกล่าว และได้มอบหมายให้หน่วยงานในพื้นที่สังกัดกระทรวง พม. บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยตามภารกิจของกระทรวง พม. โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. ได้แก่ เด็ก สตรี คนพิการ ผู้สูงอายุ คนพิการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเตรียมแนวทางการฟื้นฟูเยียวยาให้กับผู้ประสบภัยในระยะยาวต่อไป

        โดยได้ให้การช่วยเหลือตามแผนฟื้นฟูและพัฒนาผู้ประสบอุทกภัย ได้แก่ การปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ การฝึกอาชีพสำหรับคนพิการ และสนับสนุนเงินทุนประกอบอาชีพสำหรับคนพิการ สำหรับการจัดกิจกรรม “รวมน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคอีสาน” ในวันนี้ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ศิลปิน S2S จากโครงการพัฒนาศักยภาพนักร้อง นักดนตรีตาบอดในที่สาธารณะ : จากถนนสู่ดวงดาว หรือ From Street to Stars (S2S) ร้องเพลงเปิดหมวกร่วมกับศิลปิน True เพื่อหารายได้สมทบทุนช่วยเหลือคนตาบอดและคนพิการอื่นๆ ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น โรงเรียนสอนคนตาบอดในจังหวัดขอนแก่น สมาคมคนตาบอดในจังหวัดร้อยเอ็ดและสกลนคร โดยให้สมาคมคนตาบอดในแต่ละจังหวัดรวบรวมข้อมูลคนที่เดือดร้อนและสมาคมคนตาบอดจะลงพื้นที่ร่วมกับผู้แทนจากทรู โดยนำเงินรายได้ไปช่วยตามความจำเป็นต่อไป

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก