ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

โรงเรียนนิบงชนูปถัมภ์ยะลา จัดกิจกรรม “พี่น้องอาเซียน” เน้นให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจ ในประชาคมอาเซียน

วันที่ลงข่าว: 11/08/17

          โรงเรียนนิบงชนูปถัมภ์ยะลา ส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียนให้นักเรียน จัดกิจกรรม “พี่น้องอาเซียน” ขณะนักเรียนให้ความสนใจสวมใส่ชุดประจำชาติ ร่วมงานอย่างคึกคัก

วันที่ 8 ส.ค. 60 นางสมบูรณ์รัตน์ สุวรรณราช ผู้อำนวยการโรงเรียนนิบงชนูปถัมภ์ยะลา คณะครู อาจารย์ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมวันอาเซียน ภายใต้ชื่อ “พี่น้องอาเซียน” ให้กับนักเรียนชั้นอนุบาล 1 ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพื่อให้นักเรียนได้มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการรวมตัวกันเป็นประชาคมอาเซียน โดยครู นักเรียน ทั้งโรงเรียนก็จะแต่งตัวตามประเพณี วัฒนธรรมของแต่ละคนอย่างสวยงาม ช่วยเพิ่มสีสันให้กับงานอีกด้วย

           ส่วนการจัดกิจกรรมครั้งนี้ มีทั้งการแสดงผลงานนักเรียนจากการเรียนรู้แผนบูรณาการ เกี่ยวกับอาเซียน การแสดงของนักเรียน รวมทั้งซุ้มความรู้ 8 ซุ้ม โดยแต่ละซุ้มก็จะมีการจัดอาเซียนศึกษา ให้นักเรียนได้เรียนรู้ความหมาย ความสำคัญ วัฒนธรรม ประเพณี ของทั้ง 10 ประเทศอาเซียน หรือสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประกอบด้วย ประเทศบรูไน ดารุสซาลามประเทศกัมพูชา ประเทศอินโดนีเซีย ประเทศลาว ประเทศมาเลเซีย ประเทศเมียนมาร์ ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศสิงคโปร์ประเทศเวียดนาม และประเทศไทย

นอกจากนี้ก็จะมีซุ้มอาหารประจำชาติของแต่ละชาติ โดยเฉพาะอาหารลักซา ของประเทศสิงคโปร์ ซึ่งนางกมลทิพย์ มะหะแซ ครูประจำชั้น ป.3 ซึ่งสอนวิชาภาษาไทย ได้เรียนรู้วิธีการทำอาหารท้องถิ่นของสิงคโปร์ จากยูทูป และมาทำให้นักเรียนได้รับประทาน ได้รับความสนใจจากเด็กนักเรียนมายืนเข้าคิว รอรับประทานกันจำนวนมากเป็นอย่างมาก ส่วนซุ้มของประเทศไทยก็จะมีการให้ความรู้เกี่ยวกับอาเซียน การละเล่นของเด็กในสมัยโบราณ รวมทั้งการรำวงในสมัยโบราณ เพื่อปลูกฝังให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้และอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของประเทศไทยให้คงอยู่สืบไป

           ขณะที่นักเรียนชั้นประถมศึกษา 4 และชั้นประถมศึกษา 6 โรงเรียนนิบงชนูปถัมภ์ทุกคน ต่างกล่าวว่าการจัดกิจกรรมวันอาเซียน สนุกมาก ได้ทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆ และได้มีความรู้ในเรื่องต่างๆ ของแต่ละประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน สภาพภูมิอากาศ ประชากร ประเพณีวัฒนธรรม การแต่งกาย และอื่นๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเรียนต่อไป

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก