วันนี้ (27 มิ.ย. 60) เวลา 08.00 น. นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ 659/2557-2560 เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 8 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ

       พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีหญิงชราอายุ 90 ปี ต้องภาระเพียงลำพังเลี้ยงดูลูกชายอายุ 60 ปีที่ป่วยพิการทางสมอง ไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งทั้ง 2 คน ต้องอาศัยในเพิงสังกะสีสภาพเก่าทรุดโทรมใกล้ผุพัง มีรายได้เพียงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการ รวมเดือนละ 1,300 บาท ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตราด (พมจ.ตราด) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว พร้อมให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านคนพิการและผู้สูงอายุของกระทรวง พม. และมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน อีกทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือเรื่องการดูแลรักษาพยาบาลของลูกชายที่พิการอย่างต่อเนื่อง และตรวจร่างกายและดูแลสุขภาพผู้เป็นแม่ รวมทั้งเรื่องการปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้ถูกสุขลักษณะ มีความมั่นคงแข็งแรง ปลอดภัย และเหมาะสมกับผู้สูงอายุและคนพิการต่อไป นอกจากนี้ ทีม พม. ในพื้นที่จังหวัดตราด จะมีการลงพื้นที่เยี่ยมบ้านดังกล่าวเป็นระยะอย่างต่อเนื่องต่อไป

       พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรณีหญิงอายุ 26 ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก ทำให้ตาบอด 1 ข้าง และมีแผลขนาดใหญ่ที่ดวงตา สร้างความเจ็บปวดทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก ซึ่งหญิงดังกล่าวอาศัยอยู่กับสามีที่เป็นเสาหลักในการทำงานหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว อีกทั้งต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกวัย 5 ขวบ และ 3 ขวบ ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดขอนแก่น นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น (พมจ.ขอนแก่น) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สังกัดกระทรวง พม. เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวง พม.พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นและอุปกรณ์การเรียน อีกทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลอาการป่วยของหญิงดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และเรื่องการศึกษาของเด็กทั้ง 2 คนในระยะยาว นอกจากนี้ มีการให้คำแนะนำปรึกษาแก่ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวในเรื่องการส่งเสริมการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมที่เพียงพอและมั่นคงในระยะยาวต่อไป

       พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณี พบเด็กทารกเพศหญิงวัยแรกคลอด อวัยวะครบ 32 ถูกห่อด้วยผ้าเช็ดตัว และนำมาวางทิ้งไว้หลังถังขยะแห่งหนึ่ง โดยที่บริเวณลำตัวมีรอยถูกมดกัด ซึ่งมีพลเมืองดีเห็นจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือไว้ได้อย่างปลอดภัย ที่จังหวัดชลบุรี นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี (พมจ.ชลบุรี) และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านเด็กของกระทรวง พม. โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งช่วยเหลือในเรื่องการติดตามหาญาติของเด็ก อย่างไรก็ตาม บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรีพร้อมรับเด็กไว้ในความดูแลอย่างเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นผู้ประสบปัญหาตั้งครรภ์ไม่พร้อม หรือไม่พร้อมในการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด สามารถขอคำปรึกษาแนะนำได้ที่ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 บริการ 24 ชั่วโมง ซึ่งกระทรวง พม. มีนักสังคมสงเคราะห์และเจ้าหน้าที่ที่ให้คำปรึกษาแนะนำ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ ซึ่งเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทิ้งเด็กทารกรายวันในระยะยาว