ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ข้อดีของการจ้างคนพิการเข้าทำงาน

วันที่ลงข่าว: 22/06/17

       สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน รายงานว่า ในปัจจุบันคนพิการถือเป็นผู้ด้อยโอกาสทางสังคมเนื่องจากมีสภาพร่างกายที่ไม่พร้อมเหมือนกับคนปกติทั่วไป ทำให้บางคนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องมีคนคอยดูแล บางคนก็สามารถช่วยเหลือตัวเองได้บ้างหรือบางคนก็สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แทบจะเหมือนกับคนปกติ คนพิการส่วนหนึ่งแม้จะมีความพิการทางร่างกาย แต่ก็ยังต้องการที่จะใช้ชีวิตและทำงานได้เหมือนเช่นคนปกติทั่วไป เมื่อทำงานมีรายได้ก็จะรู้สึกว่าชีวิตมีคุณค่าก็จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
       รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในเรื่องของคนพิการและต้องการให้ความช่วยเหลือ จึงได้จัดให้มีสวัสดิการต่างๆ สำหรับคนพิการขึ้น รวมถึงกรณีที่คนพิการที่ต้องการเข้าทำงานในสถานประกอบการก็สามารถแจ้งความจำนงไว้ได้เช่นเดียวกัน นอกจากนั้นรัฐบาลยังให้สิทธิพิเศษกับสถานประกอบที่จ้างคนพิการเข้าทำงาน โดยให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีอย่างมากมาย จนแทบจะเรียกได้ว่าหากบางสถานประกอบการจ้างผู้พิการที่มากพอ กำไรที่สามารถทำได้จากกิจการก็แทบจะไม่ต้องเสียภาษีให้กับรัฐเลยก็ว่าได้ ถือว่ารัฐสนับสนุนธุรกิจที่ช่วยจ้างคนพิการเข้าทำงานนั่นเอง
       สำหรับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี ที่ผู้ประกอบการจ้างคนพิการเข้าทำงาน มีดังนี้
       1. ค่าจ้างคนพิการ เงินค่าจ้างที่สถานประกอบการจ้างคนพิการเข้าทำงาน โดยปกติแต่เดิมที่สามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายได้ตามที่จ่ายจริง เพื่อคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ต้องจ่ายให้แก่รัฐบาล ส่วนพิเศษที่รัฐเพิ่มเติมให้อีก ก็คือ ในยกเว้นภาษีเงินได้เท่ากับเงินค่าจ้างคนพิการทำงานได้อีกร้อยละหนึ่งร้อย หมายความว่า หากมีค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าจ้างคนพิการทั้งปีอยู่ที่ 120,000 บาท เดิมจะหักเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อคำนวณภาษีอยู่แล้ว 120,000 x 30% = 36,000 บาท รัฐเพิ่มให้โดยสามารถนำมาหักได้อีกเท่าหนึ่ง คือ 120,000 x 30% = 36,000 บาท หากมองก็เท่ากับรัฐช่วยออกค่าจ้างคนพิการให้ 36,000 บาท นั่นเอง สถานประกอบการก็เหมือนกับจ่ายค่าจ้างคนพิการแค่ 64,000 บาทเท่านั้น
       2. ค่าใช้จ่ายอุปกรณ์ที่เป็นการอำนวยความสะดวก ให้บริการกับคนพิการ เช่นเดียวกับค่าจ้างคนพิการ โดยปกติค่าใช้จ่ายในส่วนนี้สถานประกอบการสามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้เต็มตามจำนวนที่จ่ายจริงอยู่แล้ว แต่รัฐยังเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้ด้วยการให้นำเงินในยอดเดียวกันสามารถนำมายกเว้นภาษีเงินได้ได้อีกต่อหนึ่งในอัตราร้อยละหนึ่งร้อย หากมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกให้กับคนพิการในการทำงานทั้งปีที่ 100,000 บาท เสียภาษีอยู่ที่ 30% ก็จะได้รับยกเว้นภาษี 100,000 x 30% = 30,000 บาท เท่ากับรัฐบาลช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ในรูปแบบของภาษี 30,000 บาท ผู้ประกอบการออกเอง 70,000 บาท
       3. การจ้างคนพิการที่เกินกว่าร้อยละ 60 ของลูกจ้างทั้งหมดและระยะเวลาการจ้างเกินกว่า 180 วัน หากเป็นสถานประกอบการที่จ้างคนพิการเป็นจำนวนมากถึงร้อยละ 60 ของลูกจ้างทั้งหมด และระยะเวลาการจ้างเกิน 180 วัน สามารถนำค่าจ้างคนพิการมายกเว้นภาษีได้อีกร้อยละหนึ่งร้อยต่างหากจากข้อ 1 ซึ่งก็หมายความว่า สถานประกอบการนั้นสามารถนำเงินค่าจ้างคนพิการมาเป็นหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ถึง 3 เท่าด้วยกัน ยกตัวอย่าง หากมีการจ้างคนพิการเป็นเงิน 100,000 บาทต่อคน ก็นำเงินมาหักค่าใช้จ่ายได้ถึง 300,000 บาทต่อคน มีกี่คนก็คูณจำนวนคนพิการเข้าไป มีโอกาสสูงมากที่สถานประกอบการอาจไม่ต้องจ่ายเงินภาษีให้กับรัฐบาลเลยก็เป็นได้
ในส่วนของสถานประกอบการที่จ้างคนพิการเข้าทำงาน นอกจากจะได้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีที่รัฐบาลช่วยเหลือแล้ว ยังถือว่าได้ใช้ความรู้ความสามารถของคนพิการเข้ามาทดแทนกับแรงงานที่ขาดแคลนอยู่ในปัจจุบันได้ด้วย และถือว่าได้ช่วยเหลือผู้พิการที่เป็นผู้ด้อยโอกาสในสังคมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก