ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

นายกรัฐมนตรี มอบ รมว.พม. เยี่ยมให้กำลังใจเด็กชายอายุ 8 ปี ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

วันที่ลงข่าว: 13/06/17

        วันที่ 12 มิ.ย. 60 เวลา 14.00 น. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ได้รับมอบหมายจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการลงพื้นที่เยี่ยมและให้กำลังใจ กรณีเด็กชายธรรมสมิตนวเศรษฐกุล หรือน้องเต้าอี้ อายุ 8 ปี ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่สามารถเดินได้ ต้องใช้รถวีลแชร์ แต่มีความพยายามในการดำเนินชีวิตให้เหมือนเด็กปกติ สามารถไปโรงเรียนและร่วมกิจกรรมต่างๆของโรงเรียนร่วมกับเพื่อนได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ เด็กชายได้เขียนจดหมายถึงนายกรัฐมนตรี ที่เป็นขวัญใจและกำลังใจ มีใจความว่า อยากเจอลุงตู่ อยากชวนไปดูภาพยนตร์เรื่อง Gleason (เป็นหนังเกี่ยวกับเรื่องนักกีฬาคนพิการ) แต่ตนเองไม่สามารถเดินทางไปรับลุงตู่ได้ เนื่องจากพิการ และได้มีการเผยแพร่เรื่องราวดังกล่าวทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งพลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ได้มอบหมายให้นางนภา เศรษฐกร รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รองปลัด พม.) เป็นผู้แทนในการเยี่ยมและให้กำลังใจ พร้อมทั้งนำจดหมายและของขวัญจากนายกรัฐมนตรีไปมอบให้เด็กชายดังกล่าว ณ โรงเรียนมีนประสาทวิทยา เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ

 

         นางนภา กล่าวว่า สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ กระทรวง พม. ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ให้มาเยี่ยมและให้กำลังใจพร้อมทั้งมอบของขวัญและจดหมายจากนายกรัฐมนตรีให้เด็กชายดังกล่าว โดยข้อความที่นายกรัฐมนตรีเขียนถึงเด็กชายมีใจความว่า “ขอเป็นกำลังใจให้น้องเต้าอี้ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงโดยเร็ว รัฐบาลจะพยายามแก้ไขปัญหาด้านสาธารณสุขให้ได้โดยเร็ว เพื่อจะได้ดูแลประชาชนทุกคน เราต่างก็ต้องเป็นกำลังใจให้กันและกันนะครับ รักและห่วงใย ลงชื่อพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี (ลุงตู่ของเต้าอี้)” ทั้งนี้ ภายหลังที่เด็กชายได้รับของขวัญและอ่านข้อความของนายกรัฐมนตรี เด็กชายรู้สึกดีใจ และมีกำลังใจมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งฝากขอบคุณนายกรัฐมนตรีด้วย

 

         นางนภา กล่าวเพิ่มเติม กระทรวง พม. โดยตนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 และเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมเยี่ยมให้กำลังใจ พบว่า เด็กชายดังกล่าวพิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย แต่มีความขยันหมั่นเพียร ตั้งใจเรียน และมีผลการเรียนดี สามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆร่วมกับเพื่อนได้ดี ซึ่งพ่อแม่ของเด็กได้ให้การเลี้ยงดูเป็นอย่างดี เพื่อให้น้องสามารถมาเรียนหนังสือได้เหมือนเด็กปกติ ทั้งนี้ ขอชื่นชมเด็กชายดังกล่าวที่มีความมุ่งมั่นขยันหมั่นเพียร โดยไม่นำความพิการมาเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต สำหรับแนวทางการช่วยเหลือนั้น ได้มีการให้คำปรึกษาในการวางแผนด้านการศึกษาของเด็กในระยะยาว เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรีและประกอบอาชีพเลี้ยงดูตนเองได้ในอนาคต

 

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก