วันนี้ (9 มิ.ย. 60) เวลา 07.30 น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวว่า จากกรณีพบเด็กชายยอดกตัญญูวัย 11 ขวบ กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.5 สู้ชีวิต อาศัยเวลาว่างหลังเลิกเรียนและในวันหยุด ทำงานรับจ้างทุกอย่าง เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว และเลี้ยงดูแม่วัย 33 ปี ที่พิการตาบอด ด้านผู้เป็นพ่อทิ้งหนีไปมีครอบครัวใหม่ เด็กชายจำเป็นต้องหยุดเรียนบ่อยครั้ง เนื่องจากต้องพาผู้เป็นแม่ไปหาหมอ ครอบครัวมีฐานะยากจน อาศัยเบี้ยคนพิการใช้ประทังชีวิต ที่อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ และกรณีหญิงรายหนึ่ง ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หมอนรองกระดูกทรุดตัว แขนขาลีบ ช่วยเหลือตัวเองไม่ค่อยได้ อาศัย อยู่กับลูกสาวคนโตและลูกเขย ลูกชายคนเล็กวัย 14 ปี และหลานชายวัย 10 ขวบ ทั้ง 5 ชีวิต อาศัยในห้องเช่าสภาพเก่าทรุดโทรม ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่ย่านพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ทั้ง 2 จังหวัด ได้แก่ พมจ.เพชรบูรณ์ และ พมจ.สมุทรปราการ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงและประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านเด็กและคนพิการของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ อีกทั้ง มอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น อุปกรณ์การศึกษา นอกจากนี้ ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลของผู้ที่ป่วยอย่างต่อเนื่อง การศึกษาของเด็กในระยะยาว และการปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้ถูกสุขลักษณะ มีความมั่นคง และปลอดภัย รวมทั้งให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำในเรื่องสวัสดิการสังคมตามความเหมาะสม และให้คำแนะนำปรึกษาแก่ครอบครัวดังกล่าวในเรื่องการส่งเสริมการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ที่เพียงพอและมั่นคงในระยะยาวต่อไป

       พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีพบชายชราวัย 60 ปี ป่วยเป็นโรคมะเร็ง มีก้อนเนื้องอกขนาดใหญ่และเป็นแผลที่บริเวณลำคอ สร้างความเจ็บปวดทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก อาศัยอยู่กับลูกชายที่มีอาชีพรับจ้างก่อสร้างรายวัน ครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่มีเงินเพียงพอค่ารักษาพยาบาล ที่อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก (พมจ.พิษณุโลก) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ เร่งลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านผู้สูงอายุของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ อีกทั้ง มอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลของผู้ที่ป่วยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำในเรื่องสวัสดิการสังคมตามความเหมาะสม และให้คำแนะนำปรึกษาแก่ครอบครัวดังกล่าวในเรื่องการส่งเสริมการประกอบอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ที่เพียงพอและมั่นคงในระยะยาวต่อไป