ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

รายงานพิเศษ : ที่ประชุมสุดยอดอาเซียนฟิลิปปินส์ เห็นพ้องให้ประสานความร่วมมือกับองค์กรระดับโลก เพื่อพัฒนาภูมิภาคอย่างยั่งยืน

วันที่ลงข่าว: 03/05/17

        การประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 30 ที่กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเสร็จสิ้นลงแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยผู้นำจาก 10 ประเทศสมาชิก ได้ใช้เวทีดังกล่าวหารือและทบทวนแผนการดำเนินงานอย่างเต็มที่ พร้อมแลกเปลี่ยนทัศนะเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในภูมิภาคและระดับโลก เพื่อให้อาเซียนก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน รวมทั้งตอบสนองผลประโยชน์ของประชาชนทั่วทั้งภูมิภาค โดยในส่วนของประเทศไทย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ได้ให้ประโยชน์กับประเทศสมาชิก ซึ่งไทยจะทบทวนบทบาท และเดินหน้าตามพันธะสัญญาที่ร่วมกันไว้ โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพื่อก้าวไปข้างหน้าตามวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2025 พร้อมทบทวนปัญหาและอุปสรรคที่ส่งผลต่อการพัฒนาทั้งในเรื่องของกฎระเบียบ อัตลักษณ์ที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาร่วมกัน ขณะที่ปัญหาด้านความมั่นคง ได้หยิบยกมาพูดคุยในการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ ทั้งเรื่องการป้องกันและปราบปรามการก่อการร้าย //ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ รวมถึงปัญหาทะเลจีนใต้ ซึ่งผลการหารือร่วมกันระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน มีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดี จนนำไปสู่การการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านความมั่นคงในทะเลจีนใต้ (coc) ส่วนความมั่นคงในคาบสมุทรเกาหลี มติอาเซียนเห็นร่วมกันว่าควรแก้ไขด้วยสันติวิธี และให้ประเทศมหาอำนาจร่วมกันเจรจาร่วมกันเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย

        นอกจากเวทีอาเซียนแล้ว การประชุมแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย – มาเลเซีย – ไทย (IMT – GT) ได้หารือเรื่องของความเชื่อมโยงระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน และประชาคมโลก ทั้งด้านสาธารูปโภค การคมนาคมขนส่ง ระบบโลจิสติก ซึ่งไทยมีแผนการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ภาคตะวันตก รวมถึงพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือใต้ ควบคู่กับการพัฒนาเมืองเขียวใน 3 ประเทศ ได้แก่ เมืองมะละกา บาตัมเมดาน สงขลา และหาดใหญ่ พร้อมจัดทำและขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการเมืองสีเขียวจังหวัดสงขลาเป็นพื้นที่นำร่อง เพื่อให้เป็นเมืองสีเขียวมีความเชื่อมโยงอย่างกว้างขวางใน IMT-GT และให้ทุกภาคส่วนอยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุก

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก