ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

รายงานพิเศษ : ”แรงบันดาลใจแห่งแผ่นดิน” นิทรรศการภาพวาดเฉลิมพระเกียรติครั้งแรกของ “เอกชัย วรรณแก้ว” ศิลปินพิการไร้แขน ผู้มีในหลวง ร.9 เป็นต้นแบบในชีวิต

วันที่ลงข่าว: 03/05/17

 “เก่งมากนะ... เป็นต้นแบบและกำลังใจให้ผู้คนมากมาย ขอให้รักษาความดีนี้ไว้ เพื่อเป็นแบบอย่างให้คนในสังคม”

       

       พระราชดำรัส สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีแก่ นายเอกชัย วรรณแก้ว บัณฑิตหนุ่มคณะจิตรกรรม วิทยาลัยเพาะช่าง ในวันพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2555 ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จลงจากที่ประทับ เพื่อพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตหนุ่มร่างเล็กพิการที่ใช้ไหล่รับแทนมือ เพราะไร้แขนสองข้าง มีเพียงเท้าสั้นๆเท่านั้น

       

       แม้นร่างกายไม่สมประกอบ ทว่าด้วยความไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา เอกชัยใช้พลังใจสยบข้อจำกัดทางร่างกาย จนสามารถคว้าปริญญาตรี คณะจิตรกรรม วิทยาลัยเพาะช่างได้สำเร็จ และดำรงชีวิตด้วยความเพียร โดยมีในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่

       

       ทุกวันนี้ของเอกชัย นอกจากจะเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนแล้ว เขายังคงทำงานศิลปะที่ตัวเองรัก หลายปีที่ผ่านมา ศิลปินหนุ่มมักจะเป็นผู้นำในการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อถวายในหลวงอยู่เสมอ

       

       กิจกรรมครั้งล่าสุดที่ทำให้เขาและประเทศไทยโด่งดังไปทั่วโลก คือ การปีนยอดเขาคิลิมันจาโร เพื่อขึ้นไปวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ถวายในหลวง ในปี 2558 สร้างปรากฏการณ์คนพิการเอเชียคนแรกที่พิชิตยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปแอฟริกา       

       • ชายพิการผู้ไม่เคยท้อแท้ในชีวิต

       เอกชัย วรรณแก้ว หรือชื่อที่เพื่อนๆเรียกว่า “มนุษย์เพนกวิน” เกิดในครอบครัวยากจน พ่อแม่เป็นชาวนา มีพี่น้อง 5 คน เอกชัยเป็นคนสุดท้อง เขาเกิดมาพร้อมความพิการทางกาย แต่ก็ไม่เคยโทษโชคชะตา กลับยอมรับและดำเนินชีวิตด้วยใจที่เข้มแข็ง โดยไม่เคยรู้สึกว่าสิ่งที่มีไม่เหมือนใคร คือปมด้อยของชีวิต

       

       ในวัยเด็ก เอกชัยใช้วิธีการกลิ้งแทนการเดิน เพราะไม่มีแขน ส่วนขาก็สั้นมาก เขาหัดเดินจนล้มคว่ำคะมำหงายนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็เรียนรู้วิธีการล้มที่ไม่เจ็บตัว แล้วค่อยๆลุก และเดินได้ในที่สุด

       

       เมื่อเดินได้เขาก็หัดทำกิจกรรมหลายอย่าง ขนาดที่ว่าคนปกติยังอาย เช่น พายเรือ เตะบอล และที่ถนัดที่สุด คือ การวาดรูป ซึ่งฝึกฝนจากความชอบ โดยเริ่มจากการใช้เท้าหัดวาดการ์ตูน

       

       เมื่อเริ่มโตขึ้น ราว 10 ขวบ เอกชัยมีความคิดอยากเรียนหนังสือ แต่กลับถูกปฏิเสธจากโรงเรียนแถวบ้าน โดยให้เหตุผลว่า เขาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ กลัวว่าจะเป็นภาระของคนอื่น แต่พ่อของเขาก็ยังสู้ พาไปพบศึกษาธิการจังหวัด ท่านบอกให้เขาลองถอดเสื้อและช่วยเหลือตัวเองด้านต่างๆ ซึ่งเขาก็ทำได้ดี ในที่สุดเขาจึงได้เรียนสมความตั้งใจ

       

       จากการบ่มเพาะวิชาและการต่อสู้ด้วยการคิดบวก ทำให้เอกชัยก้าวข้ามปมด้อยด้านร่างกาย สามารถสอบเข้าวิทยาลัยเพาะช่างได้ด้วยความสามารถของตนเอง

       

       นอกจากต้องต่อสู้กับความพิการแล้ว เขายังต้องสู้กับความยากจนอีกด้วย เพราะสิ่งแวดล้อมเมืองหลวง แตกต่างจากบ้านเดิมที่นครสวรรค์อย่างสิ้นเชิง เอกชัยต้องปรับตัวปรับใจอย่างมาก เขาไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม ไม่มีที่อยู่ เคยเหลือเงินในกระเป๋าแค่ 3 บาท แต่เขาก็ไม่ได้ขอใคร กลับทำทุกวิถีทาง ทำงานทุกอย่างเพื่อส่งตัวเองเรียน โดยไม่บอกพ่อแม่ เพราะกลัวทั้งสองจะลำบาก

       

       แล้วความพากเพียรก็ส่งผล เมื่อเอกชัยจบการศึกษาปริญญาตรี จากคณะจิตรกรรมสากล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตเพาะช่าง เป็นลูกที่มีการศึกษาสูงที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้งหมด

       

       • จิตกรไร้แขน ผู้มี “ในหลวง ร. 9” เป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่

       บุคคลสำคัญที่เป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ให้เอกชัยมาตลอดนับแต่เยาว์วัย คือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ด้วยทุกๆบ้านในต่างจังหวัด จะมีรูป “ในหลวง ร.9” ในอิริยาบถต่างๆติดอยู่ รวมถึงการได้เห็นพระราชกรณียกิจของพระองค์ผ่านข่าวทางโทรทัศน์อยู่เสมอ ทำให้เอกชัยมีความรู้สึกผูกพันอย่างลึกซึ้ง และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

       

       ตลอดชีวิตของการเป็นศิลปินวาดภาพ เอกชัยวาดภาพในหลวง ร.9 มาแล้วหลายร้อยภาพ ต่อเนื่องมานานกว่า 20 ปี การได้นำเสนอภาพและบอกเล่าเรื่องราวของพระองค์ ด้วยความสานึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นสิ่งที่เขากระทำอยู่เสมอในทุกโอกาสที่อำนวย จนกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว       

       • แรงบันดาลใจส่งต่อแรงบันดาลใจ และส่งต่อโอกาสที่ได้รับ

       นอกจากการเป็นศิลปิน นักวาดภาพอิสระแล้ว ศิลปินพิการผู้นี้ยังเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ ที่ผู้คนต่างชื่นชม และตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เขาได้เดินทางไปพูดให้กำลังใจผู้คน ในองค์กรภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสถาบันการศึกษาต่างๆเป็นจำนวนมาก

       

       ชีวิตวันนี้ของเอกชัยถือว่าได้เดินทางมาสู่จุดสำเร็จเกินความตั้งใจ จากโอกาสที่ผู้คนมอบให้ ทำให้เขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณค่า ได้ตอบแทนบุญคุณบิดา มารดา เป็นที่พึ่งของครอบครัว และเลี้ยงชีพด้วยการเป็นจิตรกรอิสระ และครูสอนศิลปะ ได้อย่างไม่อายใคร ไม่เป็นภาระของใคร และยังคงเกื้อกูลผู้คนรอบข้างอีกด้วย

       

       และเป้าหมายในชีวิตของเอกชัย คือ การเปิดโรงเรียนสอนศิลปะสำหรับเด็กด้อยโอกาส โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น

       

       ในปี 2560 เอกชัยได้จัดตั้งโครงการอาสาศิลป์ เพื่อเปิดพื้นที่ในการส่งมอบโอกาสให้แก่ศิลปินรุ่นหลัง ที่มีฝีมือและมีใจรักในหลวง โดยมุ่งเน้นการสร้างศิลปินจิตอาสาที่มีในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นแรงบันดาลใจ โดยมีกิจกรรม พุทธอาสาศิลป์ Workshop ครั้งที่ 1 เพื่อคัดเลือกศิลปินมาสร้างสรรค์ผลงานสืบสานพระราชปณิธาน และนำแสดงเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติในลำดับต่อไป

       • “แรงบันดาลใจแห่งแผ่นดิน” นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ครั้งแรกในชีวิตของศิลปินพิการ

       ล่าสุด เอกชัยในฐานะประธานโครงการอาสาศิลป์ นำทีมศิลปินที่มีจิตอาสามาร่วมทำกิจกรรม “แรงบันดาลใจแห่งแผ่นดิน” ภายใต้แนวคิด “ธ ทรงเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่แห่งแผ่นดิน” ซึ่งเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ นับเป็นปรากฏการณ์พิเศษครั้งแรกในชีวิตที่เอกชัยได้จัดงานแสดงภาพในหลวง พระผู้เป็นแบบอย่างและแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ของคนไทยทั้งประเทศ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ รวมทั้งได้เปิดพื้นที่ให้ศิลปินจิตอาสาอีกสิบคน ร่วมถวายความจงรักภักดี และสืบสานพระราชปณิธานผ่านผลงานศิลปะ เพื่อส่งต่อและสร้างแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ให้ผู้คนในสังคม

       

       “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ท่านทรงเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจในชีวิตของผมมาตั้งแต่ผมเด็กๆ เพราะผมได้เห็นพระองค์ทรงงานมาโดยตลอด ไม่มีวันพัก ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย สร้างสรรค์ประโยชน์มากมายให้แก่ประเทศชาติและพสกนิกรของพระองค์ พอถึงวันนี้ที่พระองค์ทรงเสด็จสวรรคต ผมก็เลยอยากจะลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง นั่นคือ การได้แสดงออกและสื่อภาพของพระองค์ออกมาจากหัวใจ ซึ่งผมก็คือใจดวงหนึ่ง ตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศที่พร้อมจะมอบให้แก่พระองค์”

       

       นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “แรงบันดาลใจแห่งแผ่นดิน” จะจัดขึ้นในวันที่ 18-21 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 ณ ลานอีเดนชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ในวันเปิดงานนิทรรศการ เอกชัยจะวาดภาพในหลวงประกอบเพลงความฝันอันสูงสุด โดยศิลปินอี๊ด วงฟลาย เพื่อนำภาพออกประมูลหารายได้ นำขึ้นทูลเกล้าถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

       

       สำหรับท่านที่ลงทะเบียนเข้าชมงานล่วงหน้า ผ่าน www.rsasilp.com ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 15 พฤษภาคม 2560 รับมอบหนังสือสูจิบัตร ฉบับพิเศษฟรี ชื่อ “ในหลวง แรงบันดาลใจแห่งแผ่นดิน” มูลค่า 250 บาท

       

       (จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 197 พฤษภาคม 2560 โดย กองบรรณาธิการ) 

^ กลับสู่เนื้อหาหลัก