คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีมติให้คณะอนุกรรมการพิจารณาสัญญาสัมปทานและพิจารณาความจำเป็นการใช้คลื่นความถี่ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ เร่ง ทำความเข้าใจกับส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจที่ได้รับอนุญาตเกี่ยวกับกรอบแนวทางปฏิบัติ

        ผศ.ภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีมติมอบหมายให้คณะอนุกรรมการพิจารณาสัญญาสัมปทานและพิจารณาความจำเป็นการใช้คลื่นความถี่ด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ชี้แจงทำความเข้าใจกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการกระจายเสียงตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 เกี่ยวกับกรอบแนวทางปฏิบัติ กรอบระยะเวลาสำหรับการดำเนินการ และแนวการกำกับดูแลของ กสทช. ดังนี้ ระยะเวลาในการใช้งานหรือถือครองคลื่นความถี่ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ให้นับต่อไปอีก 5 ปี ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2560 โดยสิ้นสุดลงวันที่ 3 เมษายน 2565 ตามคำสั่ง คสช.ที่ 76/2559 กรอบแนวทางปฏิบัติที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐจะต้องถือปฏิบัติภายใต้การกำกับดูแลของ กสทช. ตามมาตรา 83 แห่ง พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. 2553 โดยให้ทำความเข้าใจ คือ เห็นควรเน้นย้ำกรณีประสงค์จะทำสัญญาให้บุคคลอื่นเข้าร่วมดำเนินการ ต้องปฏิบัติตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การแบ่งเวลาให้ผู้อื่นดำเนินการ พ.ศ.2556 การจัดทำผังรายการจะต้องเป็นไปตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์การจัดทำผังรายการสำหรับการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ.2556 , เนื้อหารายที่ออกอากาศต้องไม่ขัดหรือแย้งกับหลักเกณฑ์ที่ กสทช. กำหนดไว้ เนื้อหาต้องไม่เป็นการต้องห้ามตามมาตรา 37 แห่ง พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 หรือกำหนดให้มีรายการที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ผู้พิการและคนด้อยโอกาส

        รองเลขาธิการ กสทช. กล่าวย้ำว่า ที่ประชุม กสท. ยังได้เห็นชอบอัตราการลดหย่อนค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปี 2 บริษัท คือ บริษัท ไทย นิวส์ เน็ตเวิร์ค (ทีเอ็นเอ็น) จำกัด และบริษัท เอเอสทีวี(ประเทศไทย) จำกัด รวมทั้ง เห็นชอบผลการดำเนินการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลของกองทัพบก บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย ที่ได้มีการปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ โดยมีพื้นที่ครอบคลุมสัญญาณโทรทัศน์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของจำนวนครัวเรือนทั่วประเทศ