นายบัณฑิต ศิริตันหยง ประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพธนาคมจำกัด กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารชุดใหม่ที่ได้รับการแต่งตั้งเข้ามาเมื่อเดือนธันวาคม 2559 ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานหลายด้านเพื่อให้กรุงเทพธนาคม ซึ่งถือเป็นบริษัทลูกของกรุงเทพมหานครเป็นที่รู้จักแก่สังคมมากขึ้น จำเป็นต้องเน้นการทำงานที่โปร่งใส โดยมีคณะทำงาน 5 ด้านดูแลในเรื่องบริหารความเสี่ยง, ตรวจสอบการทำงาน ซึ่งประชาชนมีส่วนร่วมตรวจสอบการทำงานได้, บริหารจัดการบุคคล ต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้น พัฒนาเว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารถึงประชาชนได้ทุกประเด็น และ สื่อสารองค์กร นำประโยชน์ให้ภาคประชาชน โดยเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมตอบแทนสังคมผ่านกิจกรรมโครงการแบบ CSR กรุงเทพธนาคมยุคใหม่ต้องลบคำกล่าวจากภายนอกว่าเคทีเป็นเหมือนแดนสนธยาออกไป

       ทั้งนี้ ภารกิจของกรุงเทพธนาคมหรือเคที ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของระบบขนส่งมวลชน ล้อ ราง เรือ ประกอบด้วยโครงการรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว เรือคลองภาษีเจริญ งานศึกษาและวิจัยด้านสิ่งแวดล้อม งานเก็บขนและกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ ซึ่งงานแต่ละด้านมีความเกี่ยวพันกับการใช้ชีวิตของประชาชน จึงต้องมีการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มศักยภาพให้ประชาชนพึงพอใจและสามารถเพิ่มรายได้ให้กับกรุงเทพมหานครอีกด้วย ถือเป็นภารกิจสำคัญที่จะต้องดำเนินการ อาจจะกำไรน้อยแต่ต้องสามารถเลี้ยงตนเองได้ไม่เป็นภาระในการจัดสรรเงินงบประมาณจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งการที่จะทำให้หน่วยงานอยู่ได้ด้วยตนเองจำเป็นจะต้องเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม เช่น นำร่องในโครงการรถบริการสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น ภาคเอกชนได้ให้การสนับสนุนผ่าน CSR ซึ่งหวังว่าโครงการดีๆ แบบนี้จะได้รับความสนใจจากเอกชนอื่นเข้าร่วมสนับสนุนต่อยอดเพิ่มขึ้น

        ในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และรถไฟฟ้าสายสีทอง รถไฟฟ้าสายสีเทาที่ขณะนี้อยู่ในการขั้นตอนการศึกษา หรือบีอาร์ที ทั้งหมดคิดบนพื้นฐานเพื่อประโยชน์ของประชาชนมากกว่าการสร้างรายได้เป็นหลักเพราะถือว่าเป็นภารกิจการให้บริการสาธารณประโยชน์ แต่ก็จะหาวิธีการเพื่อลดการขาดทุนสะสมให้มากที่สุด