ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ไทยจับมือองค์การยูนิเซฟ ยกระดับคุณภาพชีวิตเด็กพิการ

วันที่ลงข่าว: 18/04/17

    พก.จับมือองค์การยูนิเซฟ ขับเคลื่อนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการทุกช่วงวัย มุ่งเน้นคุ้มครองเด็กพิการให้มีความเท่าเทียมและยั่งยืน เพื่อใช้ชีวิตอย่างอิสระและมีคุณค่าในสังคม

         นายสมชาย  เจริญอำนวยสุข อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เป็นประธานลงนามในแผนงานความร่วมมือกับองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UNICEF) ในการขับเคลื่อนแผนงาน พ.ศ. 2560 - 2561 เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิของเด็กพิการ กับกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ณ ห้องราชา 1 ชั้น 11 โรงแรมปริ๊นพาเลซ มหานาคกรุงเทพมหานคร

         นายสมชาย กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการทุกช่วงวัย โดยเฉพาะการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตั้งแต่วัยเด็ก ดังนั้น พก. จึงมุ่งเน้นการพัฒนาการคุ้มครองเด็กพิการ ในประเทศไทยให้มีความเท่าเทียมและยั่งยืนเพื่อให้คนพิการสามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระร่วมกันกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างอยู่เย็นเป็นสุข (Inclusive Society) โดยการส่งเสริมมาตรฐานการคุ้มครอง การกำหนดนโยบาย การปรับเปลี่ยนทัศนคติเชิงสร้างสรรค์ ตลอดจนส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิของเด็กพิการ ให้เป็นนโยบายที่สำคัญเพื่อสอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ (CRPD) รวมทั้งอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (CRC) ซึ่งเป็นกลไกส่งเสริมสิทธิคนพิการและเด็กในระดับสากล

        นายสมชาย กล่าวว่า กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการและองค์การยูนิเซฟ มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือส่งเสริมการเข้าถึงสิทธิของเด็กพิการ จึงเป็นที่มาของการลงนามความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานในการขับเคลื่อนแผนงาน พ.ศ. 2560 – 2561 ในพิธีลงนามแผนงานความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการกับองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติประจำประเทศไทย (UNICEF) โดยมีจุดมุ่งหมายห้าด้านที่จะดำเนินการให้บรรลุผล ได้แก่ การจัดทำข้อมูลสถิติเด็กพิการ  การเข้าถึงสิทธิของเด็กพิการ การจัดทำมาตรฐานการคุ้มครองเด็กพิการ การตรวจสุขภาพเด็กพิการ และการเตรียมความพร้อมเด็กพิการเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ทั้งนี้ การดำเนินงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมให้ประเทศไทยดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กพิการอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นประโยชน์ต่อการจัดทำนโยบายและการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมที่ครอบคลุม ทั่วถึงและยั่งยืน

        “ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยขับเคลื่อนงานด้านเด็กพิการและปรับทัศนคติที่ดีต่อเด็กพิการและคนพิการ พร้อมรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้ประเทศไทยมีแนวทางการคุ้มครองทางสังคมที่ยั่งยืนและตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ผมขอขอบคุณองค์การยูนิเซฟอีกครั้งหนึ่งที่มีส่วนร่วมสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อเด็กพิการ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาที่ดีต่อกันแบบนี้ตลอดไป” นายสมชาย กล่าวทิ้งท้า

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์บ้านเมืองออนไลน์ วันที่ 15 เมษายน 2560
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก