ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

สุดยอด! “ช่างหู” หนุ่มพิการชาวตรังประดิษฐ์มือเทียมใช้เอง ลั่นไม่ขอยอมแพ้ต่อชะตาชีวิต

วันที่ลงข่าว: 07/04/17
    นายกุมภีร์ หรือช่างหู เล่าว่า เดิมทีตนเป็นชาว ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง แต่ย้ายภูมิลำเนามาอยู่กับครอบครัว หลังจากแต่งงานอยู่กินกับ น.ส.มณีรัตน์ ชูยัง ผู้เป็นภรรยาเป็นเวลาเกือบ 6 ปี กระทั่งเหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ขณะที่ตนไปรับซื้อหมากสดมาจากต้นเพื่อทำหมากแห้ง และกำลังจะกลับบ้าน ระหว่างนั้นตนไปยืนหลบร้อนพิงต้นหมาก แต่ปลายต้นหมากกลับเอนไปตามกระแสลมโดนสายไฟฟ้าแรงสูง จนเกิดช็อตทำให้ตนล้มลงแบบตั้งตัวไม่ทัน ซึ่งตอนแรกคิดว่าโดนใครถีบให้ล้ม จึงลุกขึ้นแล้วเอามืออีกข้างไปคว้าต้นหมากต้นเดิมอีก ทำให้ล้มลงอีกครั้ง ส่วนรอบๆ ตัวก็มีไฟไหม้พงหญ้าแห้งล้อมตัว
       นายกุมภีร์ หรือช่างหู
       โดยตอนนั้นตนรู้สึกตัวตลอด แต่มีอาการชาที่มือทั้ง 2 ข้าง และเท้าข้างขวาลุกขึ้นไม่ไหว จึงเรียกให้เพื่อนมาช่วย จากนั้นเพื่อนก็มาช่วยยกออกจากกองไฟ แล้วพามารักษาตัวที่โรงพยาบาลตรัง โดยต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ประมาณ 3 เดือนกว่า ซึ่งขณะนอนพักรักษาตัวอยู่นั้น มือทั้ง 2 ข้างก็แห้งดำ ไม่มีความรู้สึก และใช้การไม่ได้ เมื่อปรึกษากับหมอก็แนะนำว่า น่าจะต้องตัดมือทั้ง 2 ข้าง ตนก็บอกว่าตัดก็ตัด เพราะทำใจได้ตั้งแต่ตอนแรกแล้ว
 หลังจากนั้น หมอได้วินิจฉัยตัดให้จนถึงข้อมือทั้ง 2 ข้าง แล้วส่งไป รพ.สงขลานครินทร์ (ม.อ.) และได้มือเทียมมา 2 ข้าง ราคาประมาณ 100,000 บาท แต่ต้องจ่ายจริง 10,000 บาท อย่างไรก็ตาม ใช้งานไปได้ประมาณ 3 เดือน มือเทียมก็หัก จึงไปติดต่อที่ รพ.ม.อ.อีกครั้ง โดยหมอบอกว่าต้องรอประมาณ 2 ปี ตนจึงกลับมาบ้าน และคิดว่าถ้าอยู่เฉยๆ คงไม่ได้ เพราะต้องทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง และต้องดูแลพ่อแม่ที่แก่ชรา ตนจึงลงมือประดิษฐ์มือเทียมขึ้นมาเอง และลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้งจนสำเร็จ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 4-5 พันบาท
       
       อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ตนสามารถกลับทำงานได้ตามปกติ และมีคุณภาพเหมือนเดิม ทั้งงานเชื่อมเหล็ก หรืองานเฟอร์นิเจอร์ เพียงแต่อาจใช้เวลานานกว่าเดิมเล็กน้อย อีกทั้งทุกวันนี้ยังใช้มือจับช้อน จับแก้วน้ำ และกระดิกนิ้วมือเทียมได้เองโดยไม่ต้องเป็นภาระใคร ที่สำคัญคือ มีภรรยาผู้เป็นที่รักคอยดูแลช่วยเหลือ และให้กำลังใจอยู่ใกล้ๆ เสมอ ทำให้ตนมีแรงที่จะต่อสู้ต่อไป
   นายกุมภีร์ หรือช่างหู ยังเล่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอีกว่า สำหรับมือที่ตนออกแบบ และประดิษฐ์ขึ้นมานั้นใช้เหล็กสเตนเลสเชื่อมเป็นรูปมือ และนิ้ว ก่อนสวมด้วยสายยาง ส่วนแขนใช้พลาสติกซูเปอร์ลีน ไปหล่อขึ้นมาเอง ก่อนขันนอตผูกโยงกับเชือกไนลอน และใช้ท่อพีวีซี น้ำหนักประมาณข้างละ 0.5 กิโลกรัม มาเป็นส่วนประกอบด้วย ซึ่งใช้งานมาถึงขณะนี้แล้วกว่า 1 ปีเศษ โดยคิดว่าน่าจะใช้งานไปได้ยาวนาน และสามารถใช้แทนมือที่ต้องสูญเสียไปทั้ง 2 ข้างได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ตนขอฝากให้กำลังใจไปถึงผู้พิการทุกคนว่า “อย่าท้อ” ค่อยแพ้เวลาหมดลม มีลมหายใจอยู่ไม่ต้องกลัวอะไร และเราต้องช่วยตัวเองก่อนจะได้ไม่ต้องเป็นภาระต่อสังคม
         น.ส.มณีรัตน์ ผู้เป็นภรรยาของ นายกุมภีร์ หรือช่างหู กล่าวว่า สามีตนเป็นคนขยันทำมาหากิน จะคิดตลอดเวลาว่าทำอะไร แล้วได้เงินมาเลี้ยงดูครอบครัว และตื่นตั้งแต่เช้าทุกวัน โดยหลังจากเกิดอุบัติเหตุจนทำให้สามีต้องกลายเป็นคนพิการ ตนก็ไม่เคยคิดทอดทิ้งไปไหน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสามีตนไม่เคยทำตัวเป็นภาระ แถมยังให้กำลังใจตลอดเวลา ทั้งนี้ ในการประกอบอาชีพ ถ้างานใดที่ทำเองได้ก็จะทำ ถ้าทำไม่ได้เพราะไม่มีมือที่แข็งแรงพอ ก็จะบอกให้คนอื่นทำแทน ทำให้ตน และครอบครัวไม่รู้สึกหนักใจ ส่วนความสูญเสียมือทั้ง 2 ข้าง และเท้าอีก 1 ข้างของสามี คงต้องยอมรับเพราะอาจเป็นโชคชะตา แต่ไม่คิดเคยยอมแพ้ โดยจะอยู่ดูแลกันและกันตลอดไป
ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 5 เมษายน 2560
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก