พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ว่า จากกรณีหญิงอายุ 54 ปี ป่วยหลายโรครุมเร้า ทั้งเนื้องอกในต่อมใต้สมอง โรคหัวใจโต และกระดูกข้อเข่าหลุด แต่ต้องรับภาระเพียงลำพังเลี้ยงดูสามีอายุ 52 ปี ที่พิการขาด้วนทั้ง 2 ข้าง อาศัยเบี้ยคนพิการใช้ประทังชีวิต และได้รับความเมตตาจากพระสงฆ์นำของที่บิณฑบาตมาแบ่งให้ ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่ อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี นั้น จึงได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดราชบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สังกัดกระทรวงฯ เร่งลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว พร้อมให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ รวมทั้งมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น นอกจากนี้ ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด อีกทั้งเรื่องการแนะนำให้คำปรึกษาในเรื่องการส่งเสริมอาชีพ เพื่อสร้างรายได้ที่เพียงพอและมั่นคงในระยะยาวต่อไป ส่วนอีกกรณีหญิงอายุ 35 ปี ถูกสามีอายุ 43 ปี ทำร้ายร่างกายอย่างโหดเหี้ยม จนเสียชีวิต โดยการใช้กระต่ายขูดมะพร้าวทุบศีรษะ ใช้อาวุธมีดแทงที่ลำคอ และนำศพไปฝังไว้ที่บ่อเกรอะ แล้วหลบหนีไป ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ ซึ่งทำให้ลูกสาวอายุ 14 ปี ของผู้เสียชีวิต ยังทำใจรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ ที่อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร นั้น ได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งลงพื้นที่เยี่ยมบ้าน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว โดยเฉพาะเร่งเยียวยาและฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กหญิง อีกทั้ง ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลช่วยเหลือในเรื่องการติดตามญาติ เพื่อมารับและดูแลเด็กต่อไป