ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

"สะดวก ปลอดภัย" เสียงสะท้อนผู้ใช้"รถบริการรับ-ส่งผู้พิการผู้สูงอายุ" กทม.พร้อมเดินหน้าดึงเอกชนร่วมดูแล

วันที่ลงข่าว: 17/03/17
โครงการรถบริการสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตในการเดินทาง
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานครไม่เอื้อต่อการเดินทางเท่าที่ควร โดยเฉพาะผู้พิการ ผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น จะค่อนข้างมีปัญหาเป็นอย่างมาก
 
        "คนที่ใช้รถเข็นจะเดินทางไปไหนก็ลำบาก แท็กซี่ทั่วไปก็ไม่อยากรับเพราะไม่อยากอุ้มขึ้นลงรถ ส่วนรถโดยสารประจำทางก็ขึ้นไม่ได้เวลาพาเด็กไปโรงพยาบาลจะใช้ระบบโทรจองรถบริการสำหรับผู้พิการของกรุงเทพมหานครแทน เพราะสะดวก สามารถเดินทางไปครั้งละหลายคนได้  " นายอิทธิพล พิมพ์ชัย หรือครูกุลีของน้องๆโรงเรียนศรีสังวาลย์ ของมูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการ ในพระราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี  สะท้อนความจำเป็นในเรียกใช้บริการรถในโครงการรถบริการสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น ที่ทางกรุงเทพมหานครจัดขึ้น
 
        ครูกุลี กล่าวว่าโรงเรียนศรีสังวาลย์ฯเป็นโรงเรียนสอนเด็กพิการทางด้านร่างกายและการเคลื่อนไหวระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีนักเรียนประมาณ 250 คน ส่วนใหญ่จะใช้กายอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวก เวลาจะพาเด็กไปทำกิจกรรมนอกสถานที่ต้องใช้รถของโรงเรียนเป็นรถบัสขนาดใหญ่ 30 ที่นั่งมีระบบไฮดรอลิคยกรถเข็นขึ้นลงรถ พร้อมระบบความปลอดภัยครบครันซึ่งมีอยู่เพียงคันเดียวและใช้งานมาเป็นเวลานาน จึงไม่ค่อยนำออกมาใช้ เวลาพาเด็ไปโรงพยาบาลหรือทำกิจกรรม หากไปกันจำนวนไม่มากโทรจองรถบริการฯให้มารับแทน เพราะรถบริการฯมีสิ่งอำนวยสะดวกที่เอื้อให้กับเด็กๆที่ใช้รถเข็นอยู่แล้ว อีกอย่างประหยัดกว่าการนำรถคันใหญ่ออกด้วย
ขณะที่น้องภูชิต อิงชัยภูมิ อายุ 15 ปี หนึ่งในนักเรียนโรงเรียนศรีสังวาลย์ฯที่นั่งรถเข็น และเป็นนักกีฬาว่ายน้ำของโรงเรียนกล่าวว่า ความพิการไม่ได้ทำให้รู้สึกลำบากแต่การเดินทางไปไหนมาไหนลำบากกว่าเพราะไปเองคนเดียวไม่ค่อยได้เวลาเรียกรถไม่รับการมีรถบริการสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น ของทางกรุงเทพมหานครน่าจะทำให้เดินทางได้สะดวกขึ้น
          
       ด้านนายบัณฑิต ศิริตันหยง ประธานกรรมการบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด กล่าวว่าโครงการรถบริการสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็นเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตในการเดินทางให้ผู้พิการ ผู้สูงอายุได้เข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆได้อย่างเท่าเทียมกับคนทั่วไปและมีความปลอดภัยสูง โดยเริ่มให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2555 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2560 มีผู้ใช้บริการรถเข็น ประมาณ 64,000 คน โดยเป็นผู้พิการ 1,600 คน และผู้สูงอายุ 48,000 คน มีรถให้บริการทั้งหมด 30 คัน รวมทั้งสิ้น 52,219 เที่ยว ซึ่งในจำนวนนี้มีการปฏิเสธผู้ใช้บริการด้วยเนื่องจากจำนวนรถไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ส่วนจุดหมายปลายทางที่ให้บริการประกอบด้วย โรงพยาบาล สถานที่ราชการหรือสมาคมต่างๆ และสถานที่อื่นๆ โดยทางบริษัทฯจะจัดลำดับความจำเป็นเร่งด่วนของผู้ขอรับบริการเป็นหลัก
        สำหรับรูปแบบรถบริการสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็น เป็นรถตู้ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ให้แก่ผู้ใช้รถเข็น และผู้ติดตามด้วยความปลอดภัยภายในมีลิฟท์ไฮดรอลิคขึ้นลง พร้อมที่จับ หมุดยึดตัวพร้อมสายรัดความปลอดถัยและเข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้ใช้รถเข็น มีเบาะเสริม 2 ที่นังสำหรับผู้ติดตาม มีกล้องวงจรปิด และ ติดตามการเดินทางด้วยระบบจีพีเอสคำนวณค่าบริการด้วยระบบมิเตอร์โดยติดต่อขอรับบริการได้ที่ศูนย์บริการทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ศูนย์บริการหนองแขม พระราม 3 ทุกวันในเวลา 09.00-16.00 น. และศูนย์รามคำแหง เฉพาะ จันทร์-ศุกร์ โดยรถจะออกให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ของทุกวัน ขั้นตอนแรกให้ติดต่อเพื่อทำการนัดหมายสถานที่และเวลาในการรับ-ส่งพร้อมลงทะเบียนใช้งานครั้งแรกเพื่อความสะดวกในการขอใช้บริการในครั้งต่อไป
           
      นายเสกสรรค์ ไตอุโฆษ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสยามมิชลิน จำกัด เปิดเผยถึงการเข้าร่วมโครงการรถบริการสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็นของกรุงเทพมหานครเป็นครั้งแรกว่าบริษัทฯ ได้สนับสนุนยางมิชลินจำนวน 120 เส้นให้กทม.เพื่อนำไปใช้ในโครงการฯพร้อมให้บริการดูแลรักษายางรถยนต์ ตลอดอายุการใช้งานเนื่องจากยางรถยนต์ถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความปลอดภัยในการเดินทาง อีกทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการให้ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่  โดยก่อนหน้านี้ได้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างต่อเนื่อง
ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์บ้านเมืองออนไลน์ วันที่ 17 มีนาคม 2560
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก