ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

คลังอัดโปรอุ้ม'คนจน'แจกบัตรสวัสดิการ/ช่วยค่าบ้าน-น้ำ-ไฟ

วันที่ลงข่าว: 17/03/17

เตรียมตัวด่วนลงทะเบียน3เม.ย.-15พ.ค.

 

“คนจน” เตรียมตัวด่วน! กระทรวงการคลังดีเดย์เปิดลงทะเบียนรอบสอง 3 เม.ย.-15 พ.ค.นี้ เล็งจัดหนักอัดโปรช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายทั้งค่าบ้าน ค่ารถเมล์ ค่าน้ำ และค่าไฟ ผ่านบัตรสวัสดิการรูดปรื๊ดตั้งแต่มิ.ย.นี้

 

16 มี.ค.60 นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 โดยมีนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (รมว.คลัง) เป็นประธานในพิธี ว่า กระทรวงการคลังได้ลงนามร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) , กรมการปกครอง , กรมที่ดิน , กรุงเทพมหานคร (กทม.) , ธนาคารออมสิน , ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารกรุงไทย เป็นต้น เพื่อร่วมดำเนินโครงการ ซึ่งการเปิดรับลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยรอบที่ 2 นี้ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.-15 พ.ค.60

 

สำหรับสวัสดิการที่รัฐจะให้กับผู้ที่มาลงทะเบียน ซึ่งคาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 14 ล้านราย โดยกระทรวงการคลัง จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบสิ่งที่จะดำเนินการและรูปแบบการให้สวัสดิการ เบื้องต้นจะช่วยเหลือด้านรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี และค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ผ่านบัตรสวัสดิการ คาดว่าจะเริ่มแจกได้ในเดือน มิ.ย.นี้

 

“มาตรการช่วยเหลือในครั้งนี้ อาจไม่ได้เป็นการแจกเงินเหมือนที่ผ่านมา เพราะครั้งนี้เศรษฐกิจเริ่มดีขึ้นแล้ว มาตรการก็ต้องแตกต่างกันไป คาดว่าหลังจากลงทะเบียนแล้วจะแจกบัตรสวัสดิการได้ในเดือน มิ.ย.นี้ ซึ่งจะระบุมาตรการที่ให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น ในเรื่องของค่าน้ำ ค่าไฟ แต่จะสรุปอีกครั้งว่าจะให้ฟรีเลย หรือลด 25-50% เช่นเดียวกับค่าการเดินทาง ซึ่งที่ผ่านมาให้แบบเหวี่ยงแห คนรวย คนจน ได้หมด แต่ครั้งนี้ จะให้สิทธิ์เฉพาะคนจน” นายสมชัย กล่าว

 

นายสมชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในอนาคตกระทรวงการคลังยังจะเสนอมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมในด้านค่าเช่าที่อยู่อาศัย ค่าที่พัก เช่น มีภาระผ่อน 2,000 บาทต่อเดือน รัฐอาจช่วย 500-1,000 บาท และเรื่องทำประกันให้ผู้ที่มีรายได้น้อย รัฐจ่ายค่าเบี้ยให้ 99 บาท หากเข้ารักษาพยาบาล จะชดเชยรายได้ 300 บาทต่อวัน เป็นต้น ซึ่งทั้ง 2 มาตรการยังอยู่ระหว่างการศึกษา

 

“มาตรการที่จะให้คงบอกไม่ได้ว่าจะใช้งบประมาณเท่าไร ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ที่มาลงทะเบียนว่ามีเท่าไร ซึ่งหลังลงทะเบียนเสร็จต้องใช้เวลาตรวจสอบ 1-2 เดือน ก่อนประกาศและแจกบัตรสวัสดิการเดือน มิ.ย. ซึ่งจะทำคู่ขนานไปกับการประสานผู้ที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งเครื่องรับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะใช้กับบัตรสวัสดิการด้วย” นายสมชัย กล่าว

 

ในส่วนของผู้ที่จะมาลงทะเบียน สามารถขอรับแบบฟอร์มลงทะเบียนได้ที่หน่วยลงทะเบียนทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้จากเว็บไซต์ของกระทรวงการคลัง www.mof.go.th สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง www.fpo.go.th อีเปย์เม้นท์ www.epayment.go.th และเว็บไซต์ของหน่วยรับลงทะเบียน เพื่อเตรียมกรอกข้อมูลที่ใช้ในการลงทะเบียน

 

สำหรับข้อมูลที่ต้องใช้ในการกรอกข้อมูล เช่น บัตรประจำตัวประชาชนของตนเอง เลขบัตรประจำตัวประชาชนของบิดา มารดา และบุตร สมุดทะเบียนบ้าน ทะเบียนผู้พิการ ทะเบียนเกษตรกร เลขที่บัญชีเงินฝาก เป็นต้น และต้องสำรวจว่าตนเองมีรายได้ เงินฝาก และหนี้สินเท่าใด หลังจากกรอกแบบฟอร์มครบถ้วน ชัดเจน และถูกต้องตามความเป็นจริงแล้ว ต้องลงนามรับรองความถูกต้อง และลงนามยินยอมให้เปิดเผยและตรวจสอบข้อมูลของ ผู้ลงทะเบียนได้

 

นอกจากนี้ ในวันลงทะเบียน ผู้ลงทะเบียนต้องมาลงทะเบียนด้วยตัวเองที่หน่วยรับลงทะเบียน ที่ใดที่หนึ่งที่ตนเองสะดวก โดยยื่นแบบฟอร์มที่กรอกพร้อมกับบัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งควรเป็นบัตรประชาชนรุ่นใหม่หรือแบบสมาร์ท การ์ด เนื่องจากต้องนำรูปบนบัตรประจำตัวประชาชนมาไว้บนบัตรสวัสดิการ ตลอดจนเอกสารอื่นๆที่จำเป็นมาแสดง เพื่อยืนยันตัวตนและข้อมูลที่กรอกให้กับทางราชการ โดยไม่ต้องให้หน่วย รับลงทะเบียนเก็บไว้ ในกรณีผู้พิการและผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางได้ ต้องมีหนังสือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาแสดงในวันลงทะเบียนด้วย

 

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จะกรอกข้อมูลของผู้มาลงทะเบียนเข้าระบบคอมพิวเตอร์ ผู้ลงทะเบียนต้องรับเอกสารหลักฐานการลงทะเบียนกลับไป โดยเจ้าหน้าที่จะฉีกออกจากส่วนท้ายของแบบฟอร์ม เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าการลงทะเบียนเสร็จสมบูรณ์

 

 

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์แนวหน้าออนไลน์ วันที่ 16 มีนาคม 2560
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก