ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

3 บริษัทยักษ์ใหญ่หนุนโครงการรถผู้พิการ/คนชรา

วันที่ลงข่าว: 16/03/17

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรุงเทพมหานครรับการสนับสนุนโครงการรถบริการสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุจากหน่วยงานภาคเอกชน พร้อมให้บริการดูแลรักษาและตรวจสภาพตลอดอายุสัญญา 5 ปี เพื่อให้รถโดยสารมีความปลอดภัยกับผู้ใช้บริการมีผู้บริหารบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด รับมอบการสนับสนุนจากบริษัท สยามมิชลิน จำกัด บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด ที่ห้องเจ้าพระยา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า)

       ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการลงนามข้อตกลงการสนับสนุนโครงการรถบริการสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุระหว่างกรุงเทพมหานครกับภาคเอกชน โดยบริษัท สยามมิชลิน จำกัด จะให้การสนับสนุนยางรถยนต์พร้อมให้บริการดูแลรักษาตลอดอายุการใช้งาน บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ให้บริการตรวจสภาพรถ และบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด ให้ส่วนลดน้ำมัน ลิตรละ 1 บาท ตลอดระยะเวลาสัญญาตามข้อตกลง

       ทั้งนี้ บริษัท สยามมิชลิน จำกัด เข้าร่วมโครงการรถ โดยสนับสนุนยางมิชลินจำนวน 120 เส้น ให้แก่กรุงเทพมหานคร เพื่อนำไปใช้ในโครงการพร้อมทั้งให้บริการดูแลรักษายางรถยนต์ตลอดอายุการใช้งาน เพราะยางรถยนต์ถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความปลอดภัยในการเดินทาง โดยการสนับสนุนโครงการ เป็นการส่งเสริมการเดินทางของทุกคนอย่างเท่าเทียมสะดวกรวดเร็วและปลอดภัย เป็นส่วนหนึ่งในการให้ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ผ่านการทำกิจกรรมตอบแทนสังคม โดยมีพันธกิจมุ่งเน้นการสร้างการสัญจรที่ดีกว่าสำหรับทุกคน และให้ความสำคัญกับการรณรงค์ส่งเสริมด้านความปลอดภัยบนท้องถนนผ่านกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

       กรุงเทพมหานครเริ่มโครงการรถบริการสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุเมื่อปี 2558 ตามนโยบายมหานครแห่งโอกาสของทุกคน ยกระดับคุณภาพชีวิตในเรื่องการเดินทางของผู้พิการและผู้สูงอายุที่ต้องใช้รถเข็นให้เกิดความเท่าเทียมกัน สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกปลอดภัย และสามารถเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ระยะแรกทดลองเดินรถเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2558 สิ้นสุดโครงการวันที่ 29พฤศจิกายน 2558 ระยะที่สอง ขยายผลโครงการ ให้สามารถรองรับความต้องการใช้บริการให้มากขึ้นโดยจะจัดหารถเพิ่มเติมในรูปแบบกิจกรรมเพื่อสังคม (ซีเอสอาร์)โดยเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน อยู่ระหว่างดำเนินการ

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์แนวหน้าออนไลน์ วันที่ 15 มีนาคม 2560
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก