นายกฤตชัย อรุณรัตน์ เลขาธิการ กศน. เปิดเผยว่า การประชุมขับเคลื่อนการเรียนรู้สู่สถาบันศึกษาปอเนาะ ที่จัดขึ้น ณ โรงแรมหรรษา เจบี อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 8-10 มีนาคม 2560 ครั้งนี้ เป็นการทบทวนแนวทางการบูรณาการและส่งเสริมการศึกษา รับทราบปัญหาอุปสรรคในการจัดการศึกษา เพื่อนำไปพัฒนาการจัดการเรียนรู้ในสถาบันศึกษาปอเนาะ โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้บริหารสำนักงาน กศน. จังหวัดชายแดนภาคใต้ ข้าราชการ ครูอาสาสมัครประจำสถาบันศึกษาปอเนาะใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งในโอกาสนี้ได้รับเกียรติจาก พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุมในครั้งนี้อีกด้วย

       เลขาธิการ กศน. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการจัดการศึกษาในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ สำนักงาน กศน. ได้มอบหมายให้ สำนักงาน กศน. จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา และสตูล ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ ปี 2557 เป็นต้นมา ขณะที่ในปีงบประมาณ 2560 นี้ สถาบันศึกษาปอเนาะใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมกันจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานกับ กศน. อย่างเป็นรูปธรรมแล้ว จำนวน 404 แห่ง ประกอบด้วย จังหวัด ปัตตานี 171 แห่ง, ยะลา 123 แห่ง, นราธิวาส 60 แห่ง, สงขลา 46 แห่ง และสตูล 4 แห่ง โดยมีครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียนในสถาบันศึกษาปอเนาะ จำนวนทั้งสิ้น 372 คน และมีผู้เรียนกับสถาบันศึกษาปอเนาะ ในปัจจุบันจำนวนทั้งสิ้น 21,642 คน โดยเป็นผลมาจากการที่สำนักงาน กศน. มีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะยกระดับให้สถาบันศึกษาปอเนาะ เป็นสถานศึกษาทางด้านศาสนาอิสลามที่สำคัญของพื้นที่ และสามารถดำเนินการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบเฉพาะไม่เป็นทางการ ตลอดจนมีการอบรมสั่งสอนหลักการทางศาสนาตามหลักการแก่ลูกหลานพี่น้องมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และภูมิภาคอาเซียน นอกจากนี้ ในการประชุมดังกล่าว พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยังได้กล่าวเน้นย้ำให้ข้อคิดแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะครูอาสาสมัครประจำสถาบันศึกษาปอเนาะใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งอยู่ในฐานะตัวแทนของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อออกไปทำประโยชน์ในการจัดการเรียนรู้ให้แก่สถาบันศึกษาปอเนาะ เพื่อให้การดำเนินงานในสถาบันศึกษาปอเนาะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จำนวน 2 ข้อคือ 1.ความเข้าใจในเรื่องการรักษาความปลอดภัย 2.การรู้บทบาทหน้าของตนว่าอยู่ในส่วนใดของหน่วยบูรณาการ และหน่วยบูรณาการอื่นๆ จะสามารถเข้ามาสนับสนุนการดำเนินงานในพื้นที่ได้อย่างไรบ้าง เพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันพัฒนาการศึกษา พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการนำสันติสุข มาสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืนได้ในที่สุด