ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

เปิดยิ่งใหญ่งาน "โครงการพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2560

วันที่ลงข่าว: 09/03/17

        เปิดยิ่งใหญ่ งาน "โครงการพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2560 (Sustainable Energy & Technology Asia 2017 (SETA 2017)) ภายใต้ธีม "Towards A Low-Carbon Society" ชูเทรนด์พลังงานไฮบริด รถพลังงานไฟฟ้า หวังสร้างสิ่งแวดล้อมปลอดภัย มีพลังงานใช้อย่างยั่งยืน

พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการนานาชาติ "โครงการพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2560" หรือ "SETA 2017" ปีที่ 2 จัดโดยกระทรวงพลังงาน ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงคมนาคม และ กรุงเทพมหานครภายใต้ธีม "Towards A Low-Carbon Society" ใน 4 หัวข้อหลัก ได้แก่ นโยบายและการวางแผนด้านพลังงาน เทคโนโลยีระบบผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อปล่อยคาร์บอนต่ำ พลังงานเพื่อการคมนาคมขนส่งเพื่อปล่อยคาร์บอนต่ำ และ เมืองอัจฉริยะและอุตสาหกรรมสีเขียว   เพื่อผลักดันและพัฒนาองค์ความรู้ด้านพลังงานและเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง   โดยในปีนี้เน้นเทรนด์อุตสาหกรรมไฮบริด และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 8-10มี.ค.60

 

        พลอากาศเอก ประจิน กล่าวว่า รัฐบาลมีการดำเนินการเพื่อให้พลังงานมีเสถียรภาพที่เหมาะสม โดยการสร้างความมั่นคงในด้านพลังงานทุกรูปแบบของประเทศ ที่ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการผลิต ขนส่ง จำหน่าย และการกระจาย ให้ต้นทุนราคาพลังงานอยู่ในระดับที่เหมาะสม สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ประชาชนไม่แบกรับภาระมากเกินไป  ไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว ลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยส่งเสริมการประหยัดพลังงาน เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นปีที่ 2 แล้ว ที่ประเทศไทยจะได้แสดงถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาภาคพลังงานของประเทศ และศักยภาพในการพัฒนาสู่ความเป็นศูนย์กลางพลังงานในภูมิภาคเอเชีย เชื่อมความร่วมมือของประเทศในเอเชีย โดยมีผู้นำประเทศ และผู้นำทางความคิดจากทั่วโลกเข้าร่วมประชุม เปิดโอกาสให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ได้เรียนรู้แนวความคิด การพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยและนวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงการประชุม อภิปราย และการจับคู่เพื่อเจรจาทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในงานนี้ ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทย ได้มองเห็นโอกาสในการขยายการลงทุนด้านพลังงานในต่างประเทศอีกด้วย

 

         ด้าน พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า นโยบาย Energy 4.0 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 เป็นนโยบายภาพใหญ่เพื่อยกระดับประชาชนให้มีความสามารถทางการแข่งขัน และมีรายได้สูงขึ้น เช่น โครงการ Smart Cities คือ การพัฒนาชุมชนสู่เมืองอัจฉริยะ โดยเชื่อมโยงกับการใช้พลังงานในชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้โครงข่าย Smart Grid หรือระบบบริหารจัดการเครือข่ายพลังงานอัจริยะ ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความสะดวกสบาย ลดการใช้พลังงาน เกิดการใช้พลังงานสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้าง Smart Building ติดตั้ง Smart Meter เป็นข้อมูลการบริหารจัดการไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด จัดหาไฟฟ้าให้กับรถยนต์ไฟฟ้า ขยายจุดเติมไฟฟ้าไปตามจุดสำคัญต่าง ๆ เช่น ศูนย์การค้า ที่จอดรถ ส่วนราชการ รวมถึงการทำรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า ส่งเสริมการท่องเที่ยว ช่วยลดมลภาวะทางด้านเสียงและอากาศให้กับสิ่งแวดล้อม การวิจัยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ เพื่อให้จุไฟได้มากขึ้น เรียกว่า Energy Storage เพื่อให้มีขนาดเล็กลง มีคุณภาพ และราคาถูก ในการบริหารจัดการพลังงานในประเทศ มีปัจจัยที่เป็นตัวแปรหลายอย่าง กระทรวงพลังงาน ได้ดำเนินการให้เกิดความสมดุลทั้งด้านความมั่นคง ความเป็นธรรม สิ่งแวดล้อม ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน

 

        นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้จัดทำร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทย ระยะ 20 ปี พ.ศ. 2560 - 2579 เพื่อใช้เป็นกรอบแนวคิดการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทยในอนาคต โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต พฤติกรรมการเดินทาง และความต้องการในการเดินทางของประชาชน ภายใต้ 3 แนวคิด คือ การขนส่งที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  มุ่งเน้นการลดใช้พลังงานฟอสซิล ปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดหรือพลังงานทางเลือก และส่งเสริมเทคโนโลยีด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและโลจิสติกส์โดยลดต้นทุนโลจิสติกส์ ส่งเสริมการขนส่งทางรางและทางน้ำให้เป็นรูปแบบการขนส่งหลัก โดยมีการขนส่งทางถนนเป็นระบบสนับสนุน และการเข้าถึงระบบขนส่งอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม การยกระดับการขนส่งให้สามารถรองรับผู้ใช้งานได้ทุกกลุ่ม ทั้งผู้สูงอายุ ผู้พิการ และเด็ก เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงบริการระบบขนส่งมวลชนและระบบขนส่งสาธารณะได้อย่างสะดวก มีค่าโดยสารที่เหมาะสม และมีประสิทธิภาพยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทย

 

        ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า กระทรวงฯ ยังคงเดินหน้าสนับสนุนการวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และให้มีความสอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (2560-2579) ซึ่งต้องการเพิ่มขีดความสามารถด้านเศรษฐกิจของประเทศสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน โดยใช้องค์ความรู้เพื่อเป็นพื้นฐานในการเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับด้านเกษตร อาหารและพลังงานทดแทน อีกทั้งนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีถ่ายทอดไปสู่โรงเรียน ชุมชน ทั่วประเทศ

 

        สำหรับกิจกรรมในงานแบ่งออกเป็นโซนประกอบด้วยโซนไฮบริดและเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า โซนโซลาร์เซลล์ และโซนระบบเมืองอัจฉริยะ จากเมืองโตเกียว และกรุงเทพมหานคร รวมไปถึงพาวิเลียนจากต่างประเทศ กว่า 40 ประเทศ พร้อมกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจ เช่น แคนาดา เยอรมนี ไต้หวัน เกาหลี จีน ญี่ปุ่น อินเดีย มาเลเซีย สิงคโปร์

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์บ้านเมืองออนไลน์ วันที่ 9 มีนาคม 2560
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก