พันเอกหญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมว่า ก่อนการประชุม นายกรัฐมนตรี พูดถึงปัญหาหนี้นอกระบบ โดยกำชับให้รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยกวดขันดูแลเจ้าหนี้และลูกหนี้ อย่าให้ลูกหนี้ก่อหนี้ใหม่อีก ซึ่งรัฐบาลได้จัดการกองทุนต่างๆ รวมถึงให้ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ช่วยเหลือลูกหนี้และจะมีการออกพระราชบัญญัติต่างๆ เพื่อให้การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นไปอย่างครบวงจร ทั้งนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง จับกุมเจ้าหนี้ที่ปล่อยกู้เกินอัตราและให้กวดขันอย่าให้ฝ่ายความมั่นคง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการข่มขู่ การทวงหนี้

        นายกรัฐมนตรี ยังฝากประชาสัมพันธ์โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ว่า จะมีการลงทะเบียนครั้งใหม่เดือนเมษายนนี้ อยากให้ช่วยประชาสัมพันธ์ ว่าการลงทะเบียนครั้งนี้ไม่มีผลเสียกับผู้มีรายได้น้อย แต่อยากให้ประชาชนลงทะเบียนได้ทั่วถึง เพื่อจะได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเท่าเทียม

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังให้ความสำคัญกับแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ ฉบับที่ 5 โดยกล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลในการดูแลคนพิการจะให้บริการและดูแลอย่างทั่วถึง โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานครและกระทรวงมหาดไทย ดูแลสร้างลิฟท์ให้กับคนพิการ ในการใช้บริการขนส่งสาธารณะ ในพื้นที่รถไฟฟ้า หรือรถไฟใต้ดิน ซึ่งคนพิการส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนเหล่านี้ ดังนั้นจะต้องแก้ไขเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการให้มากที่สุด

         สำหรับกำหนดการลงพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีของนายกรัฐมนตรี ในวันพฤหัสที่ 9 มี.ค. นี้ โดยจะไปดูคลินิกหมอครอบครัว หรือ Primary Care Cluster ของกระทรวงสาธารณสุข ที่อำเภอเมืองจังหวัดปราจีนบุรี โดยจะได้พูดคุยกับผู้มาใช้บริการด้วย ซึ่งโครงการนี้ เน้นให้ประชาชนในพื้นที่เรียนรู้การป้องกันและสอนให้เรียนรู้ถึงสาธารณสุขพื้นฐานเบื้องต้น ว่าจะป้องกันตนเองอย่างไร เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเอง จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปที่โรงเรียนปราจีนราษฎร์อำรุง เพื่อพบปะกับพี่น้องประชาชน ก่อนจะเดินทางไปโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพื่อติดตามความก้าวหน้าโครงการเมืองสมุนไพร พิพิธภัณฑ์เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯ ในเวลา 13.00 น.