ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

คารวะ! หนุ่มพิการสะบ้าย้อยสู้ชีวิตแม้ร่างกายไร้แขนขา

วันที่ลงข่าว: 01/03/17
นายอับดุลเลาะ มะลี หนุ่มพิการคนหนึ่งที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - พบสุดยอดหนุ่มพิการสู้ชีวิตชาวสะบ้าย้อยร่างกายไร้แขนขา สามารถใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ ทั้งทำงาน เรียนหนังสือ และยังเป็นจิตอาสาตัวยง โดยมีคติประจำใจคือ “ความฝันสร้างได้ถ้าหัวใจไม่ยอมแพ้”
       
       วันนี้ (28 ก.พ.) ที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา มีหนุ่มพิการคนหนึ่งที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา และสามารถใช้ชีวิตเหมือนกับคนปกติ ซึ่งสภาพร่างกายที่พิการคล้ายกับ Nick Vujicic ชายพิการชาวออสเตรเลีย นักสร้างแรงบันดาลใจระดับโลกที่ร่างกายครึ่งท่อนไม่มีมือไม่มีเท้า
       
       หนุ่มพิการคนนี้คือ นายอับดุลเลาะ มะลี อายุ 26 ปี หรือแบเลาะ อาศัยอยู่กับครอบครัวที่บ้านเลขที่ 40/4 หมู่ 2 ต.สะบ้าย้อย อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา สภาพร่างกายพิการมาตั้งแต่กำเนิดท่อนล่างเหลือแค่สะโพกไม่มีขา ส่วนแขนทั้งสองข้างกุดเหลือประมาณข้อศอก โดยแขนซ้ายมีติ่งนิ้วโป้งเพียงนิ้วเดียว แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวันแต่อย่างใด สามารถประกอบอาชีพและเรียนหนังสือเหมือนกับผู้คนทั่วไป จนได้รับฉายา “แบเลาะ นิ้วเดียวสร้างฝัน” และ “แบเลาะ นักเลงนิ้วเดียว” รวมทั้งยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นประธานชมรมคนพิการเทศบาลท่าพญาอีกด้วย
    โดยปัจจุบัน แบเลาะ สามารถขับรถจักรยานยนต์สามล้อที่ดัดแปลงขึ้นเป็นพิเศษ เดินทางไปขายของตามตลาดนัด และงานแสดงสินค้าต่างๆ ซึ่งใช้ความสามารถพิเศษในการเพนต์สีแก้วได้อย่างสวยงามจนกลายเป็นอาชีพหลักสร้างได้นับหมื่นบาทต่อเดือน รวมทั้งขับรถเดินทางไปเรียนหนังสือ ซึ่งขณะนี้จบชั้น ม.6 ของ กศน.อำเภอสะบ้าย้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมเรียนอาชีวศึกษา หรือ PRE-VED สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ที่ศูนย์ฝึกอบรมวิชาชีพอำเภอสะบ้าย้อย ซึ่งอยู่ในสังกัดวิทยาลัยการอาชีพนาทวี และสามารถใช้คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือได้อย่างคล่องแคล่วแม้จะมีเพียงนิ้วเดียว
       
       นอกจากนี้ แบเลาะ ยังเป็นนักกิจกรรม และจิตอาสาตัวยง เป็นทั้งวิทยากรในการบรรยายการเพนต์สีแก้วของ กศน.อำเภอสะบ้าย้อย เดินทางไปร่วมงานต่างๆ ทั่วประเทศ และยังช่วยเหลืองานสาธารณประโยชน์ทั่วไป ทั้งเช็ดล้างกวาดถูกได้ทุกอย่าง จนกลายเป็นที่รักของผู้คนทั้งอำเภอสะบ้าย้อย และมีการตั้งกลุ่มแบเลาะ FC เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ แบเลาะ อีกด้วย
   นายอับดุลเลาะ หรือแบเลาะ บอกว่า ได้รับแรงบันดาลใจในการสู้ชีวิตมาจากการได้มีโอกาสไปเข้าค่ายคนพิการที่กรุงเทพฯ เมื่ออายุได้ 9 ปี ซึ่งต้องเดินทางไปคนเดียว และใช้ชีวิตอยู่กับกลุ่มคนพิการ และได้เห็นคนอื่นๆ โดยเฉพาะครูคนหนึ่งที่พิการมากกว่าตนแต่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ จึงกลายเป็นแรงผลักดันจากที่ต้องให้คนอื่นช่วยตลอดจนสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ต้องเป็นภาระของครอบครัว และมีชีวิตที่ดีขึ้นในปัจจุบัน และเหนือสิ่งอื่นใดคือในช่วงรัชกาลที่ ๙ ที่พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างในการช่วยเหลือพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ทุกเชื้อชาติ ทุกศาสนา และเป็นแบบอย่างให้ตนช่วยเหลือสังคม ซึ่งคดีประจำใจของตนคือ “ความฝันสร้างได้ถ้าหัวใจไม่ยอมแพ้” และตั้งเป้าหมายที่จะเรียนให้สูงที่สุด อย่างน้อยก็ให้จบปริญญาตรี สาขาคอมพิวเตอร์
        
       แบเลาะ ยังได้บอกถึงคนที่กำลังท้อ หรือมีอุปสรรคในชีวิตว่า แม้จะมีคนให้กำลังใจเรา แต่ก็ไม่เท่ากับกำลังใจของตัวเอง ถึงแม้จะได้รับกำลังใจจากคนทั่วโลกแต่ถ้าเราไม่มีกำลังใจที่จะสู้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร
  ด้าน นายสาและ มะลี อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นพ่อบอกถึงความรู้สึกที่มีต่อลูกชายว่า รัก และภูมิใจในตัวลูกชายมาก แม้ร่างกายจะพิการแต่ก็สามารถทำงานช่วยเหลือครอบครัวโดยที่ไม่เป็นภาระ โดยทุกวันจะออกไปซื้อข้าวซื้อน้ำให้กิน แต่สิ่งที่เป็นห่วงคือ เรื่องการขับรถออกไปทำงาน และไปเรียนหนังสือ
       
       สำหรับผู้ที่ต้องการติดตามเรื่องราวชีวิตของ นายอับดุลเลาะ หรือแบเลาะ สามารถติดตามได้ทางเฟซบุ๊กชื่อ อับดุลเลาะ มะลี หรือติดต่อโดยตรงได้ที่โทรศัพท์มือถือหมายเลข 08-4526-2295
สามารถประกอบอาชีพและเรียนหนังสือเหมือนกับผู้คนทั่วไป จนได้รับฉายา “แบเลาะ นิ้วเดียวสร้างฝัน”
 
 
ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก