หม่อมหลวงปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีที่นักวิชาการติงการทำงานของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับแรงงานต่างด้าวมากเกินไป จนละเลยแรงงานไทยในหลายสาขาอาชีพ ว่า ยืนยันกระทรวงแรงงานไม่ได้เอาใจภาคเอกชนในเรื่องการจ้างงานที่ให้ความสำคัญกับแรงงานต่างด้าวมากเกินไปตามที่เป็นข่าว แต่เป็นการจัดระบบแรงงานต่างด้าวให้เข้าสู่ระบบการจ้างงานที่เป็นมาตรฐานสากล เพื่อให้สามารถส่งออกสินค้าได้ เนื่องจากคู่ค้าในต่างประเทศให้ความสำคัญกับการดูแลแรงงาน ส่วนการดูแลแรงงานไทยกระทรวงแรงงานไม่ได้ละเลยแต่อย่างใด ซึ่งแผนงานเร่งด่วน ในปี 2560 มีจำนวน 5 เรื่อง ประกอบด้วย การพัฒนาแรงงานไทยรองรับไทยแลนด์ 4.0 มิติใหม่การส่งเสริมการจ้างงาน การเพิ่มคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ การแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ การจัดระบบแรงงานต่างด้าว และเรื่องเซฟตี้ไทยแลนด์ ทั้งนี้จะเห็นว่ามี 3 แผนงานหลัก ที่เน้นดูแลแรงงานไทย โดยเฉพาะพัฒนาแรงงานไทยตั้งแต่อยู่ในสถาบันการศึกษา จนเข้าสู่การทำงาน สามารถต่อยอดทักษะในการทำงานกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ ผ่านการพัฒนาของสถาบันเทคโนโลยีชั้นสูง 13 แห่ง รวมทั้งการดูแลกลุ่มธุรกิจ SMEs ด้วย

        ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวอีกว่า ในเรื่องของมิติใหม่การส่งเสริมการจ้างงาน ที่ไม่ได้เน้นการหางานแค่ในประเทศอย่างเดียว แต่ต้องขยายตลาดแรงงานไปยังต่างประเทศเพิ่มเติม ล่าสุดกำลังพิจารณาการส่งแรงงานไทยไปทำงานที่ประเทศแคนนาดาด้วย ส่วนการดูแลผู้สูงอายุ ก็มีการแก้กฎหมาย เพื่อขยายอายุการจ้างงาน และการพิจารณาค่าจ้างรายชั่วโมงผู้สูงอายุ รวมไปถึงการส่งเสริมอาชีพผู้พิการที่ภาคเอกชนมีความต้องการมากกว่า 10,000 คน