ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

จัดรถบริการปชช.ชมงานนิทรรศการ‘ในหลวงร.9’

วันที่ลงข่าว: 20/02/17

กทม.จัดรถบริการรับประชาชนเข้าชมนิทรรศการ “เย็นศิระเพราะพระบริบาล”หลังกราบพระบรมศพ “ในหลวง รัชกาลที่ 9” แล้ว ประกาศงดพักค้างคืนที่สนามม้านางเลิ้ง ตั้งแต่ 1 มี.ค.เป็นต้นไป ด้านขสมก.เพิ่มรถวิ่งรับส่งวัดพระแก้ว-สนามหลวง36เส้นทาง

 

เมื่อวันที่ 17กุมภาพันธ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้ภาคเอกชน มูลนิธิ องค์กร ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยแบ่งเป็น 4 รอบ เวลา 10.00 น., 14.30 น., 17.00 น. และเวลา 19.00 น. รอบละ 11 คณะๆละ 50 คน

 

อาทิ สมาคมศิลปศาสตร์ธรรมศาสตร์ ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนาฯ สมาคมธรรมศาสตร์ในพระบรมราชูปถัมภ์สมาคมค้าข้าวไทย สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สมาคมการค้ามิตรภาพไทยภาคตะวันตกเมียนมาร์ตะนาวศรี สมาคมศิลปินทัศนศิลป์นานาชาติ แห่งประเทศไทย กลุ่มน้ำมันรำข้าวคิง สมาคมสตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ศิษย์เก่าโรงเรียนวังหลัง- วัฒนาวิทยาลัย รุ่น 99 ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศล

 

ส่วนการเข้ากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง เจ้าหน้าที่เปิดให้ประชาชนจากทั่วสารทิศที่มารอเข้ากราบพระบรมศพตั้งแต่เวลา 04.55 น. อาทิ ชมรมคนรักในหลวง ประกอบด้วย ชาวบ้านชนเผ่ากระเหรี่ยง และชนเผ่าไทใหญ่จ.แม่ฮ่องสอน ทั้งนี้ สำนักพระราชวังสรุปจำนวนประชาชนที่เข้ากราบพระบรมศพเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์มีจำนวน 29,927 คนรวม 106 วัน มีจำนวน 4,475,804 คน และมีประชาชนถวายเงินร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลจำนวน 2,995,658 บาทรวม 106 วันเป็นเงิน 377,648,560.09 บาท

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.พิศมัย สายราช ซึ่งพิการสายตาเดินเท้าจากจ.หนองคายมาถึงสนามหลวงและเข้ากราบพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่พระบรมมหาราชวัง รวมระยะทางกว่า 600 กิโลเมตร พร้อมเปิดเผยว่า ออกเดินทางจากหน้าศาลหลักเมืองจังหวัดหนองคายตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม ตั้งใจมากราบพระบรมศพ เพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 รับเข้าเป็นคนไข้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ และได้เรียนหนังสือที่โรงเรียนสอนคนตาบอดจ.เชียงใหม่จนจบ ทั้งนี้ ระหว่างเดินเท้ายอมรับมีอาการบาดเจ็บ เหนื่อยและท้อ แต่พอระลึกถึงในหลวง รัชกาลที่ 9 อาการต่างๆหายเป็นปลิดทิ้ง ถึงแม้วันนี้พระองค์ไม่อยู่แล้ว ตนจะขอทำความดีตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน นำคำสอนของพระองค์มาใช้ดำเนินชีวิต และระลึกถึงพระองค์ตลอดไป

 

ด้านพล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (รองผู้ว่าฯกทม.)แถลงถึงการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่เดินทางมาเข้ากราบพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชว่า ขณะนี้การรอแถวเข้ากราบพระบรมศพใช้เวลาไม่นาน และมีประชาชนรอในเต็นท์พักคอยจำนวนน้อย เพราะการบริหารจัดการเป็นระบบมากขึ้น ประกอบกับมีการจัดอาคารนิทรรศการเย็นศิระเพราะพระบริบาลให้ประชาชนเข้าชม ทำให้คนรอคอยคิวที่เต็นท์พักคอยไม่นาน อย่างไรก็ตาม สำหรับประชาชน ผู้สูงอายุและพระสงฆ์ ที่กราบถวายบังคมพระบรมศพเรียบร้อยแล้ว และประสงค์เข้าชมนิทรรศการฯ สามารถรอขึ้นรถบริการซึ่งจัดไว้เพื่ออำนวยความสะดวก ที่ประตูเทวาภิรมย์ เพื่อเดินทางมายังอาคารนิทรรศการได้สะดวก

 

            พล.ต.ท.อำนวยกล่าวต่อว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมเป็นต้นไปจะงดเข้าพักค้างที่สนามม้านางเลิ้ง เพราะต้องใช้เป็นจุดจอดรถของประชาชนที่มาจากต่างจังหวัด อย่างไรก็ตามกทม.ยังคงให้บริการพักค้างสำหรับประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนา ที่บ้านอุ่นใจและศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร ไทย-ญี่ปุ่น ดินแดงเหมือนเเดิม

 

           ขณะที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) แจ้งว่า ขสมก.เพิ่มเที่ยววิ่งรถโดยสารที่ผ่านวัดพระแก้ว สนามหลวง พร้อมจัดรถชัตเติ้ลบัสรวม 36 เส้นทางอำนวยความสะดวกให้ประชาชนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำหรับรถโดยสารประจำทาง 25 เส้นทาง อาทิ สาย 1, 2, 3, 12, 15, 25, 32, 42, 47, 53, 59, 60, 68, 70, 79, 80, 82, 91, 203, 503, 508, 509, 511, 516 และ 556 เฉพาะรถโดยสารธรรมดาให้บริการฟรี ส่วนรถเมล์ชัตเติ้ลบัสให้บริการฟรี 11 เส้นทางได้แก่

 

1.อนุสาวรียชัยสมรภูมิ-สนามหลวง 2.ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต-สนามหลวง 3.หัวลำโพง-สนามหลวง 4.วงเวียนใหญ่-สนามหลวง 5.เซ็นทรัลพระราม2-สนามหลวง 6.สายใต้ใหม่-สนามหลวง 7.ลานพุทธมณฑลสาย 4-สนามหลวง 8.สนามม้านางเลิ้ง-สนามหลวง 9.บางใหญ่ (เซ็นทรัลเวสต์เกต)-สนามหลวง 10. (วงกลม) รอบเกาะรัตนโกสินทร์ และ 11.หมอชิต2-สนามหลวง ตั้งแต่เวลา 06.00-24.00น.สอบถามรายละเอียดได้ที่หมายเลขโทรศัพท์1348 ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-22.00น.

 

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ระดมเจ้าหน้าที่กว่า 50 คนออกหน่วยเคลื่อนที่ให้บริการจัดทำแขน-ขาเทียมแก่ผู้พิการแขน-ขาในจ.บุรีรัมย์จำนวน 200 รายฟรี ตามโครงการส่งเสริมศักยภาพคนพิการแขน-ขาขาด ปี 2560 น้อมเกล้าฯถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยปีนี้ตั้งเป้าออกหน่วยเคลื่อนที่บริการทำแขน-ขาเทียมให้ผู้พิการยากไร้ใน 3 จังหวัดคือ บุรีรัมย์ พะเยา และปราจีนบุรี เฉลี่ยจังหวัดละ 200-250 ราย

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์แนวหน้าออนไลน์ วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก