ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

จ.หนองบัวลำภู มอบอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการอันเนื่องมาจากการประสบอุบัติเหตุจากการใช้รถใช้ถนนตามโครงการ “Happiness All ความสุขทั่วไทย ส่งความปลอดภัยให้ทุกคน”

วันที่ลงข่าว: 10/02/17

       ที่โรงแรมภูฟ้า รีสอร์ท อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู นายเวียงชัย แก้วพินิจ ปลัดจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นประเปิดในพิธีมอบอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการอันเนื่องมาจากการประสบอุบัติเหตุที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนนตามโครงการ “Happiness All ความสุขทั่วไทย ส่งความปลอดภัยให้ทุกคน”ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดหนองบัวลำภูจัดขึ้นเพื่อส่งมอบความสุขให้กับผู้พิการอันเนื่องมาจากการประสบภัยจากการใช้รถใช้ถนน ด้วยการมอบอุปกรณ์ที่มีคุณภาพที่สามารถให้ผู้พิการกลับมาดำเนินชีวิต และมีส่วนร่วมในสังคมได้ดีขึ้น โดยจังหวัดหนองบัวลำภูมีผู้พิการฯได้รับอุปกรณ์ช่วยเหลือในการดำเนินชีวิตจำนวน 7 ราย รวมค่าอุปกรณ์เป็นเงินจำนวน 368,000 บาท

       นางพัทธวรรณ บุญเหาะ ขนส่งจังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกได้จัดทำโครงการ “Happiness All ความสุขทั่วไทย ส่งความปลอดภัยให้ทุกคน” เพื่อเป็นการส่งมอบความสุขให้กับผู้พิการอันเนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน ด้วยกามอบอุปกรณ์ที่มีคุณภาพที่สามารถให้ผู้พิการกลับมาดำเนินชีวิต มีส่วนร่วมในสังคมได้ดีขึ้น และส่งมอบความสุขให้กับประชาชนทุกคน ด้วยการส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยทางถนนผ่านมาตรกรควบคุม กำกับดูแล และบริหารจัดการ ให้เกิดความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ของกรมการขนส่งทางบก และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความห่วงใยในภาครัฐ กระทรวงคมนาคม และกรมการขนส่งทางบก รวมถึงกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนที่มีต่อผู้พิการที่ประสบภัยทางถนนและประชาชนทุกคนด้วย

ทั้งนี้ ผู้พิการที่เคยได้รับอุปกรณ์และได้รับอุปกรณ์ในครั้งนี้ตามโครงการฯดังกล่าว ต่างขอบคุณโครงการฯ และรู้สึกดีใจที่เล็งเห็นความสำคัญของผู้พิการ พร้อมเสนอความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า ในการยื่นขออุปกรณ์ในครั้งต่อไปอยากให้มีระยะเวลาสั้นลง จากเดิมตามระเบียบของกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ให้ผู้พิการที่เคยได้รับอุปกรณ์ ต้องเว้นระยะ 5 ปี จึงจะสามารถยื่นขอรับอุปกรณ์ได้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งผู้พิการอยากให้เว้นระยะสั้นลงเป็นเวลา 3 ปี เนื่องจากอุปกรณ์ใช้งานงานทุกวันมีการเสื่อมสภาพและเกิดการชำรุดได้ ซึ่งทางสำนักงานขนส่งจังหวัดหนองบัวลำภู ก็จะได้นำเสนอข้อคิดเห็นดังกล่าวให้กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนพิจารณาต่อไป

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก