ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

ชมรมคนพิการทางสติปัญญาตรัง พบปะเสริมความเข้มแข็งครอบครัวคนพิการ

วันที่ลงข่าว: 06/02/17

      3 ก.พ.60 เมื่อเวลา 10.30 น. ที่โรงแรมวัฒนาปาร์ค อ.เมือง จ.ตรัง นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายสุชาติ โอวาทวรรณสกุล นายกสมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย นางรัชนี สุดจิตร์ อดีตรองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางศรีหัทยา ชูสุวรรณ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง นายสุวัฒน์ คีรีรัตน์ ประธานชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาจังหวัดตรัง เป็นประธานและร่วมในพิธีจัดกิจกรรมเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัวคนพิการทางสติปัญญาจังหวัดตรัง โดยมี พ่อแม่ ผู้ปกครอง ผู้ดูแลคนพิการ เจ้าหน้าที่ อปท. เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 120คน

 

      นายสุวัฒน์ คีรีรัตน์ ประธานชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาจังหวัดตรัง กล่าวว่า  ชมรมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาจังหวัดตรัง ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพคพิการในการจัดกิจกรรมเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัวคนพิการทางสติปัญญา เพื่อให้ได้รับความรู้ในเรื่องสิทธิประโยชน์ต่อคนพิการและผู้ดูแลคนพิการ และเพื่อให้คนดูแลคนพิการมีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นประสบการณ์ในการแก้ปัญหา อีกทั้งยังส่งเสริมให้ครอบครัวคนพิการได้มีการร่วมกันจัดกิจกรรมเสริมสร้างความรักความอบอุ่นที่ดีต่อกัน

      นางศรีหัทยา ชูสุวรรณ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดตรัง กล่าวว่า  ในฐานะตัวแทนภาครัฐ ได้มีการตั้งศูนย์บริการคนพิการจังหวัดขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ดูแลคนพิการในจังหวัดทุกประเภท ไม่ว่า จะพิการทางด้านร่างกาย หู ตา สติปัญญา  จิตใจ การเรียนรู้ออทิสติก จะมีการดูแลในเริ่องคุณภาพชีวิตคนพิการจะมีหลายส่วนไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนให้คนพิการได้รวมกลุ่ม การจัดตั้งชมรมคนพิการ การจัดตั้งศูนย์บริการคนพิการทั่วไป อีกทั้งยังสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดตรังจัดตั้งศูนย์บริการคนพิการเพื่อให้การทำงานเข้าถึงคนพิการได้อย่างทั่วถึงทุกด้าน อีกทั้งยังมีการจัดตั้ในโรงพยาบาลอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีเงินกู้ให้กับคนพิการนำไปลงทุนสร้างอาชีพสร้างรายได้ พึ่งตัวเองได้ไม่เป็นภาระกับสังคม การจัดกิจกรรมในวันนี้เพื่อให้ผู้ปกครองได้มีโอกาสรวมกลุ่มสร้างความเข้มแข็ง พบปะพัฒนาศักยภาพของกลุ่มจะช่วยเสริมความเข้มแข็งในอันที่จะกล้าคิดกล้าทำพัฒนาศักยภาพของกลุ่มให้เกิดความเข้มแข็งต่อไป

 

      นายภาคภูมิ อินทรสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า  สำหรับคนพิการที่มีอยู่นั้นไม่ใช่จะมีแต่ผู้พิการทางสติปัญญา แต่ยังมีคนพิการอีกหลายประเภทที่ภาครัฐได้เข้ามาดูแล และให้ความสำคัญ การทำงานในปัจจุบันไม่ได้ทำงานกันเพียงลำพัง แต่จมีการทำงานแบบบูรณาการในรูปแบบประชารัฐ เพื่อเข้ามาดูแลแลแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่นเดียวกับในเรื่องของคนพิการ ทางภาครัฐให้ความสนใจและสนับสนุนส่งเสริมให้ผู้พิการสามารถที่จะดูแลตัวเองได้ เพื่อให้คนพิการได้นำศักยภาพที่มีอยู่ในตัวออกมาให้มากที่สุด

 

“ทางจังหวัดตรังเองร่วมภาคีเครือข่าย ดำเนินการส่งเสริม ดูแลให้การสนับสนุนคนพิการต่างๆที่ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์จัดขึ้น ร่วมกับสมาคมและชมรมต่างๆ จัดกรรมขึ้นในการที่จะได้พบปะพูดคุย สร้างความรัก ความเข้าใจ ใกล้ชิดกัน สามารถที่จะอาศัยอยู่ในครอบครัว สังคม ชุมชน ได้เป็นอย่างดี เป็นสิ่งที่ผู้ปกครองคนพิการจะได้รับการเรียนรู้เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้น”นายภาคภูมิ กล่าว

 

      นางรัชนี สุดจิตร์ อดีตรองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะที่ปรึกษาสมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้ง มีเป้าหมายเพื่อที่จะให้ผู้ปกครองครอบครัวคนพิการด้านสติปัญญา ได้ทราบถึงสิทธิประโยชน์ที่ต่างๆ เช่น ได้มีกิจกรรมทำในครอบครัว ได้รับการสนับสนุนให้ประกอบอาชีพที่ยั่งยืน โดยสามารถใช้เงินกองทุนมาทำอาชีพของตัวเองได้ ยกตัวอย่าง การเลี้ยงไก่ โดยได้รับเงินทางกองทุนคนพิการ ทำอย่างไรให้คนพิการสามารถเข้าถึงเงินกองทุนและทำกิจกรรมทำโครงการ กิจกรรม เพื่อสร้างเงิน สร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้อย่างยั่งยืน

 

      นายสุชาติ  โอวาทวรรณสกุล นายกสมาคมผู้ปกครองคนพิการทางสติปัญญาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า  จริงๆแล้วทางชมรมฯต้องการที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนพิการด้านสติปัญญา เพื่อจะได้กระตุ้นฟื้นฟู รวมทั้งในเรื่องของการศึกษา ที่มีปัญหาเนื่องจากสังคมยังปฎิเสธ และการเข้าสู่สังคมอยากให้ผู้พิการทางด้านสติปัญญา เดินทางไปไนมาไหนเหมือนคนโดยทั่วไป ประเด็นสำคัญในเริ่องของการมีงานทำซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ ที่ผ่านมาพ่อแม่ไม่ฝึกลูก ไม่เตรียมความพร้อม คิดว่าลูกพิการจะไม่สามารถทำงานได้ แต่ปัจจุบันบริษัทฯไหนที่มีพนักงานเกิน 100 คน ต้องจ้างผู้พิการ ให้ผู้ปกครองทราบถึงสิทธิต่างๆที่ได้รับ นอกจากเบี้ยผู้พิการแล้ว ยังได้สิทธิ นั่งรถไฟฟ้าฟรี ไม่ไหนมาไหนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

 

“ขณะนี้ผู้กิการทางสิติปัญญา ที่มาลงทะเบียนทั่วประเทศมรกว่า 4 แสนคน แต่ที่ยังไม่มาลงทะเบียนยังมีอีกมาก จึงฝากประชาสัมพันธ์ว่าให้มาลงทะเบียนเพื่อจะได้รับสิทธิต่างๆ ในส่วนของการเยียวยาทางจิตใจนั้น การประชุมสัมมนาแต่ละครั้งพยายาทที่ให้ผู้ปกครองได้มาคุยกัน แลกเปลียนให้กำลังใจต่อกันจะช่วยฟื้นฟูกำลังใจต่อกัน” นายสุชาติ กล่าว 

 

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์แนวหน้าออนไลน์ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2560
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก