ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

พม.ประชุมรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ พร้อมเร่งติดตามให้การช่วยเหลือตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ

วันที่ลงข่าว: 06/02/17

      รมว.พม. กำชับ จนท. ติดตามการช่วยเหลือเด็กสาวป่วยเป็นโรคออทิสติก ซึ่งถูกคนร้ายล่อลวงไปข่มขืนกระทำชำเรา ที่ จ.ปราจีนบุรี และหญิงชราวัย 88 ปี ที่ต้องรับภาระเพียงลำพังเลี้ยงดูสามีชราที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ และลูกชายชราที่ป่วยเป็นอัมพาต ที่ จ.ชุมพร อีกทั้งครอบครัว 7 ชีวิต ที่ด้อยโอกาสทางสังคม ที่ จ.พิษณุโลก

 

      วันที่ 3 ก.พ. 60 เวลา 08.30 น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ 565/2557-2560 เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม

 

      พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า ด้วย ที่ประชุม ศปก.พม. ครั้งนี้ มีการนำเสนอข่าวกรณี แม่วัย 51 ปี พาลูกสาววัย 17 ปี ที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก ได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าลูกสาวถูกคนร้าย 2 คน ล่อลวงไปข่มขืนกระทำชำเรา และทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง อีกทั้งยังถูกบังคับกรอกยาเสพติด ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ ที่อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปราจีนบุรี (พมจ.ปราจีนบุรี) พร้อมหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวดังกล่าว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ซึ่งขณะนี้ได้รับรายงานจาก พมจ.ปราจีนบุรี ว่าจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเด็กดังกล่าว มีความพิการเป็นโรคออทิสติก และยังไม่มีบัตรคนพิการ อาศัยอยู่กับแม่ซึ่งประกอบอาชีพเก็บของเก่าขาย และพ่อที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ปาก และพี่ชายไม่ได้ประกอบอาชีพ พักอาศัยในบ้านเช่าสภาพเก่าทรุดโทรม ครอบครัวมีฐานะยากจน จากนั้น จึงได้ให้ความช่วยเหลือเด็กดังกล่าวในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ในด้านการส่งเสริมสวัสดิการสังคมที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว อาทิ การให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำบัตรคนพิการและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดทำบัตรคนพิการ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรมตามสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายต่อไป และเร่งฟื้นฟูเยียวยาสภาพจิตใจเด็กหญิงดังกล่าวอย่างใกล้ชิด รวมทั้งมอบเงินสงเคราะห์และเครื่องอุปโภคบริโภค

 

      พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า จากกรณี หญิงชราวัย 88 ปี ป่วยด้วยโรคชรา และความดันโลหิต ไม่สามารถเดินได้ ต้องรับภาระเพียงลำพังเลี้ยงดูสามีแก่ชราวัย 90 ปี ที่ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และลูกชายแก่ชราวัย 62 ปี ป่วยเป็นอัมพาต ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้เช่นกัน ทั้งยังมีแผลกดทับทั่วร่างกาย สร้างความทุกข์ทรมานอย่างมาก ซึ่งทั้ง 3 ชีวิต อาศัยในบ้านสภาพเก่าทรุดโทรม ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร (พมจ.ชุมพร) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวดังกล่าว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านผู้สูงอายุและผู้พิการของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น รวมทั้งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลด้านการส่งเสริมสวัสดิการสังคมที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว อาทิ การตรวจร่างกายและรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง และการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้มีสภาพแข็งแรง มั่นคง ถูกสุขลักษณะ เหมาะสมสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุและผู้พิการในครอบครัว เป็นต้น

 

      พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณี ครอบครัวยากจนที่อาศัยรวมกัน 7 ชีวิต โดยมีหญิงวัย 32 ปี ต้องรับภาระเลี้ยงดูลูก จำนวน 4 คนที่อยู่ในวัยกำลังเรียนหนังสือ ซึ่งผู้เป็นสามีต้องออกไปทำงานรับจ้างก่อสร้างเพื่อหาเงินเลี้ยงดูครอบครัวเพียงคนเดียว และยังมีน้องสาวของตนเองอีก 1 คน โดยทั้ง 7 ชีวิต อาศัยในเพิงสังกะสีสภาพเก่าทรุดโทรมไม่สามารถกันฝนได้ ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก (พมจ.พิษณุโลก) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวดังกล่าว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นและอุปกรณ์การเรียน รวมทั้งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการศึกษาเล่าเรียนของเด็กอย่างต่อเนื่อง และการส่งเสริมการประกอบอาชีพให้มีรายได้เพียงพอและมั่นคงในระยะยาว รวมทั้งการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านให้มีสภาพแข็งแรง มั่นคง ถูกสุขลักษณะ เหมาะสมสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว เป็นต้น

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก