ราชภัฏอีสานพร้อมใจจัดกิจกรรม “100 วัน หมอลำอีสาน อาลัยพ่อ”ช่วง 18-20 มกราคม ถวายความไว้อาลัยและน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ “ในหลวงร.9” ด้านทัพนักกีฬาพาราลิมปิกทีมชาติไทยเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ส่วนกอร.รส.หารือกรมศิลป์วางแผนจัดพื้นที่สนามหลวง ส่งสายตรวจคุมเข้มพวกแทรกคิว-ตุนอาหาร

เมื่อเวลา 07.08 น.วันที่ 11 มกราคม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง พร้อมคุณพลอยไพลิน เจนเซน คุณสิริกิติยา เจนเซน ธิดาในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 90 ทรงถวายภัตตาหารแด่พระพิธีธรรม 8 รูป จากวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร และวัดบวรนิเวศวิหาร ที่สวดพระอภิธรรมตั้งแต่ค่ำวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา

วันเดียวกัน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้สำนักงานปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ และสมาชิกโครงการทู บี นัมเบอร์ วัน ร่วมเป็นเจ้าภาพบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อน้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณและถวายเป็นพระราชกุศล

เวลา 10.30 น. นางรัศมี ปลั่งแสงมาศ ผู้ว่าการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย เป็นประธานถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรมจากวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร และวัดอนงคารามวรวิหาร ต่อมาเวลา 16.30 น. ดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นประธานพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ มีพระพิธีธรรมจากวัดจักรวรรดิราชาวาสวรมหาวิหาร และวัดอนงคารามวรวิหารสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ

ส่วนการเปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 72 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดทั้งวันมีประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาเข้าแถวอย่างเนืองแน่นเช่นทุกวัน โดยเจ้าหน้าที่เปิดให้เข้ากราบพระบรมศพตั้งแต่เวลา 04.50 น.

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังสรุปจำนวนประชาชนที่เข้ากราบพระบรมศพ เมื่อวันที่ 10 มกราคมมีจำนวน40,761 คน รวม 71 วัน มี 3,078,507 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 4,149,657 บาท รวม 71 วัน เป็นเงิน 251,917,981 บาท

วันเดียวกัน นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย นำคณะนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

ด้านพล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาค 1 ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (รอง ผอ.กอร.รส.) แถลงหลังประชุมว่า กอร.รส.ได้หารือกับกรมศิลปากรเกี่ยวกับการบริหารจัดการพื้นที่สำหรับการสร้างพระเมรุมาศ โดยกอร.รส.เสนอกรมศิลป์ไปว่า ให้จัดลำดับความสำคัญต้องดำเนินก่อสร้างส่วนใดก่อน ถ้าพบส่วนใดยังไม่ต้องดำเนินการและเกี่ยวข้องกับการดูแลประชาชน เราขอใช้พื้นที่ส่วนนั้น เพื่อให้การก่อสร้างพระเมรุมาศสามารถทำควบคู่กับการอำนวยความสะดวกประชาชนเข้าสักการะได้ ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าจะหารือเรื่องทำบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาปฏิบัติงานก่อสร้างพระเมรุมาศ

พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ยังปฎิเสธกระแสข่าวที่ระบุเมื่อครบ 100 วันแล้ว จะไม่มีการบริการประชาชนว่า ไม่เป็นความจริง ทางกอร.รส.และจิตอาสายังพร้อมดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจากทั้ง 17 กระทรวงหมุนเวียนนำอาหารและน้ำดื่มมาบริการประชาชน ทั้งนี้ ในอนาคตจะไม่มีการประกอบอาหารในพื้นที่สนามหลวง เพราะต้องการใช้พื้นที่เป็นจุดรองรับประชาชน โดยกรุงเทพมหานคร (กทม.)เป็นผู้รับผิดชอบ นอกจากนี้ ยังย้ำเรื่องการใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด เช่น ให้ใช้ขวดน้ำซ้ำเมื่อดื่มหมดขวดแล้วให้นำไปเติมที่จุดเติมน้ำ เพื่อลดจำนวนขยะ เพราะมีรายงานว่าเมื่อวันที่ 10 มกราคม มีปริมาณขยะ 35 ตัน เป็นขยะที่ย่อยไม่ได้ 37% โดย 1 ใน 3 เป็นขยะประเภทขวดน้ำ ภาชนะโฟมที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน

นอกจากนี้ พล.ต.พงษ์สวัสดิ์กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมได้พูดคุยเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ไม่เคารพกฎหมาย เช่น จอดรถขวางเส้นทางฉุกเฉิน ขับรถย้อนศร พยายามแทรกคิว และแอบนำประชาชนเข้ามาโดยไม่ผ่านจุดคัดกรอง หรือใช้บัตรจิตอาสาไปแอบอ้างขอบริจาคสิ่งของ รวมถึงคนที่กักตุนอาหาร โดยกอร.รส.จะเข้มงวดกวดขันให้มากขึ้น ซึ่งจะมีสายตรวจดูแล

ขณะที่รศ.ธรรมรักษ์ ละอองนวล รักษาราชการแทนอธิการมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เปิดเผยว่า สำนักศิลปะและวัฒนธรรมจะจัดการแสดงถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช “100วัน หมอลำอีสาน อาลัยพ่อ” ระหว่างวันที่ 18-20 มกราคม เวลา 16.00-18.00 น. ที่ลานหน้าอาคาร 100ปี ประสิทธิ์ สุนทรโรทก ซึ่งจะมีมีพิธีถวายสักการะพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมถวายความอาลัย และยืนสงบนิ่ง 89วินาทีและมีการแสดงลำล่อง ลำภูไท การขับร้องเพลงถวายอาลัยจากศิลปินแห่งชาติ และศิลปินจังหวัดอุบลราชธานี

นอกจากนี้ ยังมีการแสดงพื้นบ้านจากอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยนครพนม มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และการบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ จากวงออร์เคสตรามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ซึ่งจะมีคณาจารย์ บุคลากร นักศึกษา และประชาชนร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถวายความอาลัย และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี