ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

รายงานพิเศษ "พระราชนิพนธ์ แรงบันดาลให้แห่งความหวังและกำลังใจ"

วันที่ลงข่าว: 14/12/16

    เพลงพระราชนิพนธ์ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นอกจากมีความไพเราะอย่างมากแล้ว ยังสร้างความหวังและกำลังใจให้คนไทยทั้งชาติ จึงถือเป็นสิ่งสูงค่าและเป็นเพลงของแผ่นดินด้วย

 

    เสียงดนตรีที่บรรเลงจบลงไปนี้ คือเพลงแสงเทียน เพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรกของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่กลุ่มนักดนตรีอาสาสมัครวงสนามหลวงแจ๊สร็อค อัญเชิญมาบรรเลงในรูปแบบบลู แอนด์แจ๊ส หน้ามหาวิทยาลัยศิลปากร เพื่อให้ประชาชนที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รับฟัง

นาวาเอก ณชดล พยุงพันธ์ หนึ่งในนักดนตรีอาสาที่มาร่วมกิจกรรม บอกว่า การร่วมบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ เพราะต้องการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีต่อชาวไทยทั้งประเทศ ขณะเดียวกัน การได้เล่นดนตรีหรือฟังเพลงพระราชนิพนธ์ ทำให้รู้สึกเหมือนได้ใกล้ชิดกับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผ่านบทเพลงที่พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์ นอกจากนี้ยังหวังว่าเสียงดนตรีที่บรรเลง จะช่วยปลอบประโลมจิตใจให้ประชาชนที่เดินทางถวายสักการะพระบรมศพฯ คลายความโศกเศร้าภายในใจ จากความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ลงได้บ้างไม่มากก็น้อย

     นาวาเอก ณชดล บอกว่า เพลงพระราชนิพนธ์ นอกจากเป็นสิ่งที่ยืนยันพระอัจฉริยภาพทางด้านดนตรีของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แล้ว ยังสะท้อนให้เห็นความเข้าใจในความเป็นไปของชีวิต พร้อมเล่าว่า ในช่วงที่ต้องออกเดินเรือและทำงานอย่างหนัก ได้นำเพลงชะตาชีวิตและเพลงพระราชนิพนธ์อีกหลายเพลงไปฟัง เพื่อสร้างกำลังใจให้ตนเองด้วย

เช่นเดียวกับ นายรักศักดิ์ ชัยรัญจวนสกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพ ที่เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพฯ บอกว่า ได้นำเพลงพระราชนิพนธ์ยิ้มสู้ มาเป็นหลักดำเนินชีวิต และส่งต่อให้ลูกศิษย์ผู้พิการทางสายตาให้มีกำลังใจ ให้สามารถก้าวผ่านอุปสรรคไปได้

      ดังนั้น เพลงพระราชนิพนธ์ จึงถือเป็นสิ่งสูงค่า ที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงความรัก ความอ่อนโยนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ได้เป็นอย่างดีและหลังจากนี้ทุกบทเพลง จะยังคงดังอยู่ในหัวใจของชาวไทยทุกคนตราบนานเท่านาน เพราะทุกท่วงทำนองของเพลงพระราชนิพนธ์ ล้วนทำให้ทุกคนมีความหวังและกำลังใจ ให้ก้าวไปข้างหน้าได้ ซึ่งรวมถึงการร่วมกันพัฒนาชาติไทยตามพระราชปณิธานของพระองค์ และสมดั่งคำที่ว่า "เกิดเป็นไทย ตายเพื่อไทย"

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก