จังหวัดน่าน เป็นอีกจังหวัด ที่น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาใช้ ทำให้คุณภาพชีวิตของคนในชุมชนดีขึ้น

ระยะทางกว่า 120 กิโลเมตร จากตัวจังหวัดน่าน มุ่งหน้าขึ้นเขาในเส้นทางที่คดเคี้ยวและลาดชัน กว่าจะไปถึงหมู่บ้านหล่ายทุ่ง ตำบลปอน อำเภอทุ่งช้าง ซึ่งได้รับเลือกเป็นหมู่บ้านตัวอย่างตามรอยเท้าพ่อ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงปี 2559 ที่นี่ราษฎรส่วนใหญ่เป็นชาวไทลื้อ มีวิถีชีวิตผูกพันกับการทำการเกษตร ปศุสัตว์และงานหัตถกรรมฝีมือต่างๆ แต่ก่อนหน้านี้ราษฎรบ้านหลายทุ่ง มีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์ความจำเป็นพื้นฐาน ที่กระทรวงมหาดไทยตั้งไว้ แต่หลังจากการเข้าสำรวจของเจ้าหน้าที่หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 (นพค.สามหนึ่ง) สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ทำให้ทราบปัญหาและดำเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นแนวทางพัฒนา

นายอธิศพัฒน์ เรศมณเฑียร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลปอน ซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่ประสานงานต่างๆ เกี่ยวกับหมู่บ้าน กับ นพค.31 เพื่อแก้ไขปัญหาและสร้างประโยชน์แก่หมู่บ้าน เล่าว่า หมู่บ้านหล่ายทุ่ง เป็นหมู่บ้านที่โชคดี นอกจากจะเป็นหมู่บ้านขยายผลโครงการปิดทองหลังพระ ตามแนวพระราชดำริแล้ว ยังได้รับการสนับสนุนจาก นพค. 31 ให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้มากขึ้น ทั้งโครงการพัฒนาและช่วยเหลือประชาชน การก่อตั้งกลุ่มทอผ้าบ้านหล่ายทุ่ง กลุ่มไม้กวาดผู้พิการ จัดตั้งโครงการเกษตรผสมผสาน ตามแนวพระราชดำริ ทั้งการเลี้ยงไก่พื้นเมือง เป็ดเทศ การเลี้ยงสุกรหลุม เป็นต้น

การเข้ามาให้การสนับสนุนต่างๆ ของ นพค.31 ทำให้ราษฎรในหมู่บ้าน มีความเป็นอยู่ดีขึ้นมาก พันเอก ยุทธชัย จันทรวิภาค ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 กล่าวว่า นพค.31 ได้เข้ามาร่วมพัฒนาหมู่บ้านแห่งนี้ ตั้งแต่ปี 2558 โดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเข้ามาส่งเสริมกลุ่มอาชีพให้ราษฎร ทำให้ประชาชนในหมู่บ้าน มีรายได้และความเป็นอยู่ดีขึ้น

แม้ว่าหมู่บ้านหล่ายทุ่ง จะมีพื้นที่ไม่กว้างขวาง แต่จากการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ดำรงชีวิต ประกอบกับการได้รับความช่วยเหลือจากส่วนอื่นๆ ทำให้ทุกวันนี้ ชาวบ้านหมู่บ้านหลายทุ่ง มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นและมีความสุขอย่างยั่งยืน