ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

รฟท.เปิดตัวขบวนรถด่วนพิเศษ ปลายปีให้บริการครบ 4 เส้นทาง

วันที่ลงข่าว: 14/11/16

         เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2559 ที่ผ่านมา ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) ได้เปิดให้บริการรถโดยสารรุ่นใหม่ในขบวนรถด่วนพิเศษ เส้นทาง กรุงเทพ–เชียงใหม่-กรุงเทพ และ กรุงเทพ–อุบลราชธานี-กรุงเทพ โดยหลังจากนี้ จะมีการเปิดเดินรถเพิ่มอีก 2 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทาง กรุงเทพ-หนองคาย-กรุงเทพ และเส้นทาง  กรุงเทพ-หาดใหญ่-กรุงเทพ ในวันที่ 2 ธ.ค.59 นี้

 

         ซึ่งครบตามแผนการเปิดเดินรถใน 4 เส้นทางศักยภาพที่กำหนดไว้ ตามแผนการดำเนินการยกระดับคุณภาพการให้บริการทางรถไฟที่ดีแก่ประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกระทรวงคมนาคม ที่มุ่งเน้นการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านเศรษฐกิจและลดความเหลื่อมล้ำกระจายความเจริญสู่สังคม รวมถึงการรถไฟฯ ยังได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ในการพระราชทานชื่อขบวนรถโดยสารรุ่นใหม่ และพระราชทานอนุญาตให้เชิญชื่อพระราชทานนำไปประดับที่ตู้โดยสารรถไฟใหม่ทั้ง 115 คันอีกด้วย โดยเส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ พระราชทานชื่อว่า "อุตราวิถี" เส้นทางกรุงเทพ-อุบลราชธานี-กรุงเทพ พระราชทานชื่อว่า "อีสานวัตนา" เส้นทางกรุงเทพ – หนองคาย - กรุงเทพ พระราชทานชื่อว่า "อีสานมรรคา" และเส้นทางกรุงเทพ – หาดใหญ่ - กรุงเทพพระราชทานชื่อว่า "ทักษิณารัถย์"

ซึ่งในส่วนอัตราค่าโดยสารรถโดยสารรุ่นใหม่เส้นทางกรุงเทพ - เชียงใหม่ - กรุงเทพ ประเภทรถนอนปรับอากาศชั้น 2 อัตราค่าโดยสารราคา 791-881 บาท และประเภทรถนอนปรับอากาศชั้น 1 อัตราค่าโดยสารราคา 1,253-1,453 บาท, เส้นทางกรุงเทพ-อุบลราชธานี-กรุงเทพ ประเภทรถนอนปรับอากาศชั้น 2 อัตราค่าโดยสารราคา 731-821 บาท ประเภทรถนอนปรับอากาศชั้น 1 อัตราค่าโดยสารราคา 1,120-1,320 บาท, เส้นทางกรุงเทพ - หนองคาย - กรุงเทพ ประเภทรถนอนปรับอากาศชั้น 2 อัตราค่าโดยสารราคา 748-838 บาท ประเภทรถนอนปรับอากาศชั้น 1 อัตราค่าโดยสารราคา 1,157-1,357 บาท เส้นทางกรุงเทพ – หาดใหญ่ - กรุงเทพ ประเภทรถนอนปรับอากาศชั้น 2 อัตราค่าโดยสารราคา 855-945 บาท ประเภทรถนอนปรับอากาศชั้น 1 อัตราค่าโดยสารราคา 1,394-1,594 บาท

อย่างไรก็ตามผู้โดยสารที่ได้จองตั๋วโดยสารไว้ล่วงหน้าและมีกำหนดเดินทางหลังจากมีการปรับใช้ขบวนรถใหม่การรถไฟฯ อนุญาตให้ผู้โดยสารใช้บริการรถโดยสารรุ่นใหม่โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม

สำหรับรถโดยสารขบวนใหม่ดังกล่าวที่ให้บริการครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบคือรถนอนปรับอากาศชั้น 1 และชั้น 2 ภายในมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น ไวไฟฟรี จอแอลซีดีแต่งข้อมูลข่าวสาร สายชาร์ตยูเอสบี ปลั๊กไฟมีบริการตู้โดยสาร สำหรับผู้พิการ มีลิฟท์ยกวีลแชร์พื้นที่จัดเก็บวีลแชร์ มีรถเสบียงที่สะดวกสบายมีที่นั่งทานอาหารขนาดใหญ่ มีเคาน์เตอร์บริการอาหารและเครื่องดื่มและอาหารที่จะเน้นบริการรอาหารแช่แข็งสามารถอุ่นเสิร์ฟได้ทันที ส่วนห้องน้ำใช้ระบบสุญญากาศที่เป็นเดียวกับเครื่องบิน รวมถึงยังมีห้องอาบน้ำไว้บริการด้วย

         นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย(ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ทางการรถไฟฯ มีความมั่นใจว่า ในการเปิดให้บริการรถโดยสารรุ่นใหม่ดังกล่าวจะสามารถให้การบริการที่ดีแก่ผู้โดยสารได้ เนื่องจากภายในห้องโดยสารประกอบด้วยบริการที่สะดวกสบาย สะอาด ปลอดภัย และทันสมัย ซึ่งใน 1 ขบวน จะประกอบด้วยรถพ่วงเป็นรถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 (บนอ.ป.) รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 (บนท.ป.) ในจำนวนนี้มีรถสำหรับผู้พิการ 1 คัน รถโบกี้ขายอาหารปรับอากาศ (งบกข.ป.) และรถกำลังไฟฟ้า (Power Car) รวมถึงยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน

โดยการให้บริการรถโดยสารใหม่ดังกล่าวรวมกับแผนการก่อสร้างรถไฟทางคู่ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ขณะนี้หากดำเนินการแล้วเสร็จจะทำให้ขบวนรถใหม่ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถึงที่หมายปลายทางได้เร็วขึ้น 3 ชั่วโมง และการรถไฟฯ คาดว่า จะมีผู้ใช้บริการเฉลี่ยปีละ 1.073 ล้านคน ก่อให้เกิดรายได้เฉลี่ยประมาณปีละ 1,250 ล้านบาท สำหรับอัตราค่าโดยสารรถโดยสารรุ่นใหม่ยังคงเป็นอัตราเดิมเป็นเวลา 6 เดือน เพื่อตอบแทนผู้โดยสารและจะพิจารณาผลการบริการในช่วง 3 เดือนแรกก่อนเพื่อพิจารณาปรับขึ้นค่าโดยสารต่อไปแต่คงไม่มีการปรับเพิ่มขึ้นมากนัก หลังจากการเปิดให้บริการด้วยขบวนรถโดยสารรุ่นใหม่ และพบว่า เป็นที่นิยมของผู้โดยสารทางการรถไฟฯ ก็จะมีการพิจารณาเร่งจัดหารถมาให้บริการเพิ่มเติมเพื่อยกระดับคุณภาพในการให้บริการต่อไป

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์แนวหน้าออนไลน์ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2559
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก