ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

รมว.พม. เผยประชาชนกว่า 110,000 คน ใช้บริการผ่านจุด "พม. เพื่อพ่อหลวง” ตั้งแต่ 21 ต.ค.–10 พ.ย. 59

วันที่ลงข่าว: 14/11/16

        วันที่ 11 พ.ย. 59 เวลา 10.00 น. ที่จุดบริการประชาชน "พม. เพื่อพ่อหลวง” ในพื้นที่บริเวณสนามหลวงฝั่งตรงข้ามวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการให้บริการต่างๆ แก่ประชาชนที่เดินทางมาเพื่อร่วมถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และคณะผู้บริหาร บริษัท ซิน ไฉ ฮั้ว และบริษัทในเครือ

 

        พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาจากทั่วประเทศเพื่อร่วมถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม 2559 เป็นต้นมา รัฐบาล โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้จัดตั้งจุดบริการประชาชนจำนวน 2 แห่ง ประกอบด้วย 1) จุดบริการประชาชน "พม. เพื่อพ่อหลวง” ในบริเวณท้องสนามหลวง ฝั่งตรงข้ามวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร และ 2) จุดรองรับประชาชนบริเวณ รอบนอกพระบรมมหาราชวัง จุดที่ 12 วัดราชนัดดารามวรวิหาร เพื่อให้บริการต่างๆ และอำนวยความสะดวกสำหรับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ อาทิ เด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ

 

        พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อว่า สำหรับ จุดบริการประชาชน “พม. เพื่อพ่อหลวง” กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้เตรียมข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) พร้อมให้บริการต่างๆ ได้แก่ 1) บริการจัดทำป้ายข้อมูลเด็กและผู้สูงอายุคล้องข้อมือ (Wristband) เพื่อป้องกันการพลัดหลง หากเกิดกรณีการพลัดหลงจะได้สามารถติดต่อได้อย่างรวดเร็วทันเหตุการณ์ 2) บริการรถเข็นนั่งสำหรับคนพิการและผู้สูงอายุ (วีลแชร์) ซึ่งบริการโดย อพม. ลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด และเยาวชนจิตอาสา 3) บริการให้คำปรึกษาแนะนำปัญหาทางสังคม โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 4) บริการแจกฟรีพร้อมสาธิตการทำ ได้แก่ ยาดม ยาหม่อง พิมเสนน้ำ และริบบิ้นดำ 5) “เยาวชนจิตอาสาทำดีเพื่อพ่อหลวง” บริการเก็บขยะบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวังและสนามหลวง โดยเด็กและเยาวชนที่อยู่ในความอุปการะของสถานสงเคราะห์ ในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และเยาวชนจิตอาสา และ 6) บริการแจกฟรีชุดยาสามัญ ยาหอม ยาอมสมุนไพร เสื้อดำ ถุงผ้า เครื่องดื่ม และขนม

 

         พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางมาลงพื้นที่ ณ จุดบริการประชาชน “พม.เพื่อพ่อหลวง” อย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และ อพม. ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยใจบริการอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับในวันนี้ พบว่า ทุกคนยังคงให้บริการต่างๆ ด้วยจิตอาสา และพร้อมอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ นอกจากนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ยังได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากภาคเอกชน โดยตนได้รับมอบเสื้อดำ จำนวน 2,000 ตัว จากเดิมที่เป็นเสื้อสีต่างๆ แล้วนำมาผ่านกระบวนการย้อมสีดำ ซัก อบ รีด และบรรจุห่อ จาก นายปิยะพล กัญจนาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิน ไฉ ฮั้ว และบริษัทในเครือ พร้อมคณะผู้บริหาร และ ดร. ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ผู้ประสานความร่วมมือ เพื่อนำมาแจกจ่ายให้กับประชาชนที่เดินทางเข้ามาถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

 

        "สำหรับ ยอดประชาชนที่เข้ามาใช้บริการต่างๆ ของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ณ จุดบริการประชาชน “พม. เพื่อพ่อหลวง” ระหว่างวันที่ 21 ตุลาคม – 10 พฤศจิกายน 2559 รวม 20 วัน พบว่า มีประชาชนรวมทั้งสิ้น 111,888 คน ได้เข้ามาใช้บริการ 1) บริการแจกฟรีพร้อมสาธิตการทำริบบิ้นดำ 47,092 ราย 2) บริการแจกฟรี ยาดม ยาหม่อง พิมเสนน้ำ ชุดยาสามัญ ยาหอม ยาอมสมุนไพร เสื้อดำ ถุงผ้า เครื่องดื่ม และขนมแจกจ่าย 54,115 ราย 3) บริการรถวีลแชร์ และให้การปรึกษาแนะนำ/อำนวยความสะดวก 3,054 ราย 4) บริการจัดทำป้ายข้อมูลเด็กและผู้สูงอายุคล้องข้อมือ (Wristband) เพื่อป้องกันการพลัดหลง 3,023 ราย และ 5) “เยาวชนจิตอาสาทำดีเพื่อพ่อหลวง” 870 ราย นอกจากนี้ ที่จุดรองรับประชาชนบริเวณรอบนอกพระบรมมหาราชวัง จุดที่ 12 วัดราชนัดดารามวรวิหาร พบว่า มีประชาชนได้เข้ามาใช้บริการอาหารและน้ำดื่ม 563,079 ราย และบริการข้อมูลข่าวสาร/การปรึกษาแนะนำ 493 ราย โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 โทรสายด่วน 1300 บริการ 24 ชั่วโมง” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวในตอนท้าย

ที่มาของข่าว สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก