ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

การประชุมความคืบหน้าการดำเนินงานประชารัฐเพื่อสังคม เพื่อบูรณาการทุกภาคส่วนของสังคมร่วมพัฒนาสังคมไทยอย่างยั่งยืน

วันที่ลงข่าว: 08/11/16

             วันนี้ (7 พ.ย. 59) พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมเพื่อรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานประชารัฐ เพื่อสังคม และติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานประชารัฐเพื่อสังคม ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม โดยมีผู้แทนหน่วยงานจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เข้าร่วม ประกอบด้วย หอการค้าไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) เครือมิตรผล โรงเรียนอาชีวะพระมหาไถ่ ศูนย์จัดหางานคนพิการพระมหาไถ่ สมาคมองค์กรสาธารณะประโยชน์ มูลนิธินวัตกรรมทางสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

             พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้กำหนดจัดการประชุมคณะทำงานประชารัฐเพื่อสังคมของไทย ครั้งที่ 1/2559 โดยมีผู้แทนหน่วยงานจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม โดยร่วมกันพิจารณาแนวทางความร่วมมือและการสนับสนุนในด้านต่างๆ อาทิ องค์ความรู้ บุคลากร งบประมาณ และวัสดุอุปกรณ์ เป็นต้น เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากสำหรับประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ตามโครงการสำคัญของกระทรวง การพัฒนาสังคมฯ ที่ดำเนินงานสำหรับกลุ่มเด็ก เยาวชน สตรี ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ

 

              พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมที่สืบเนื่องจากการประชุมคณะทำงานประชารัฐเพื่อสังคมของไทย ครั้งที่ 1/2559 ที่ผ่านมา เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมที่เป็นคณะทำงานประชารัฐเพื่อสังคมของไทย ได้รับทราบร่วมกันถึงกรอบแนวคิดการดำเนินงานประชารัฐเพื่อสังคม โดยยึดหลักแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียงตามปรัชญาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นสำคัญ และกลไก/องค์ประกอบของคณะทำงานฯ อีกทั้งมีการรายงานความคืบหน้าถึงการดำเนินงานประชารัฐเพื่อสังคม โดยเฉพาะด้านคนพิการและผู้สูงอายุ ได้แก่ 1) การจ้างงานคนพิการในชุมชน 2) การจ้างงานผู้สูงอายุในสถานประกอบการและชุมชน และ 3) การจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและทุกคนในสังคม (Universal Design) นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้พิจาณาร่วมกันในเรื่องแนวทางการดำเนินงานขั้นต่อไปของประชารัฐเพื่อสังคม และการประชุมคณะทำงานประชารัฐเพื่อสังคม หรือ E6 และการเปิดตัวประชารัฐเพื่อสังคม

 

              พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับการขับเคลื่อนการดำเนินงานประชารัฐเพื่อสังคม หรือ E6 ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสนับสนุน (Enabling Factors) ภายใต้คณะกรรมการสานพลังประชารัฐ ตามโครงสร้างการขับเคลื่อนตามนโยบายประชารัฐของรัฐบาล ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานออกเป็น 3 คณะ ประกอบด้วย 1) คณะทำงานภาครัฐ มีตนเป็นหัวหน้าคณะ 2) คณะทำงานภาคประชาสังคม มี ทพ.ดร. สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นหัวหน้าคณะ และ 3) คณะทำงานภาคเอกชน มี นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย เป็นหัวหน้าคณะ โดยได้กำหนดเป้าหมายในดำเนินงาน คือ “ชุมชนเข้มแข็ง ประชาชนมีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี” ด้วยการขับเคลื่อนการดำเนินงานทั้งหมด 3 มิติ อาทิ 1) การขับเคลื่อนเชิงประเด็น ตามกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ (กลุ่มเด็ก เยาวชน สตรี ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ) และประเด็นที่อยู่อาศัย 2) การขับเคลื่อนเชิงพื้นที่ ตามความต้องการของชุมชน/พื้นที่ และ3) การขับเคลื่อนเชิงสถาบัน/องค์กร ตามสิ่งที่ต้องการความร่วมมือต่างๆ

 

               “สำหรับการขับเคลื่อนดำเนินงานประชารัฐเพื่อสังคม โดยเฉพาะด้านคนพิการและผู้สูงอายุ ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องการจ้างงานคนพิการและผู้สูงอายุในสถานประกอบการและชุมชน ควรมีการปรับระเบียบและแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งออกมาตรการจูงใจเพื่อให้ภาคเอกชนพิจารณารับผู้สูงอายุและคนพิการเข้าทำงานเพิ่มมากขึ้น เรื่องที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ ควรมีการหารือระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับมาตรการการสร้างที่พักอาศัยและมาตรการสินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ และเรื่องการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและทุกคนในสังคม (Universal Design) ควรส่งเสริมภาคเอกชนให้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนด้านต่างๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการและทุกคนในสังคม (Universal Design) ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งนี้ เพื่อบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนของสังคมในการมีส่วนร่วมพัฒนาสังคมไทยอย่างยั่งยืน ตามนโยบายของรัฐบาลในการลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการของรัฐ” พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวในตอนท้าย

ที่มาของข่าว สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก