รองแม่ทัพภาคที่ 1 เสียใจชาวบ้านตกค้างไม่ได้เข้าถวายบังคมพระบรมศพวานนี้ ส่วนวันนี้ให้เข้างวดละ 2 กลุ่ม จ่อเปิดคิวพิเศษสำหรับคนชราและพิการ ใช้ระบบหยุดคิวเมื่อครบ 3 หมื่นคน วอนให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่เปิดสนามหลวงตี 4-3 ทุ่ม หมดเวลาจะเชิญคนไม่เกี่ยวออก ขอคนค้างแรมย้ายไปที่ที่ กทม.จัดให้ อย่ากังวลเรื่องแต่งกาย ให้แต่งได้ตามเพศสภาพตามรูปลักษณ์

       วันนี้ (30 ต.ค.) พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองเเม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะรอง ผอ.กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย (กอร.รส.) กล่าวถึงแผนอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ว่าเมื่อวานนี้ (29 ต.ค.) ที่ได้เปิดให้ประชาชนเข้ากราบสักการะพระบรมศพนั้น ทางเจ้าหน้าที่รู้สึกเสียใจกับประชาชนที่ตกค้างไม่ได้เข้าไปกราบสักการะพระบรมศพ เพราะมีความผิดพลาดและมีอุปสรรคเรื่องของสภาพอากาศ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเยียวยาโดยให้มีการลงชื่อไว้ และเมื่อเดินทางมาวันนี้ก็จัดให้เข้าไปกราบสักการะพระบรมศพ อีกทั้งเมื่อวานนี้มีประชาชนเดินทางมาเป็นจำนวนมาก โดยเมื่อเวลา 05.30 น.มีประชาชนประมาณ 10,000 คน ซึ่งเมื่อประชาชนมีจำนวนมากขึ้นจึงเปลี่ยนวิธีการแจกบัตรคิวมาเป็นการจัดคิวเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 70 คนแทน เพื่อความสะดวกของประชาชนและสำนักพระราชวัง

       พล.ต.พงษ์สวัสดิ์กล่าวต่อว่า ในเรื่องการค้างเเรมในสนามหลวงนั้น ทาง กอร.รส.ขอความมือประชาชนให้ไปพักค้างเเรมในที่ที่ กทม.จัดให้จะดีกว่า เพราะเกรงในเรื่องของความปลอดภัย ทั้งนี้ทางกอร.รส. ยังได้จัดพื้นที่รวมพลในบริเวณสนามหลวงทางทิศใต้ที่ติดกับพระบรมมหาราชวังที่สามารถรองรับประชาชนได้ประมาณ 20,000-30,000 คน ซึ่งแผนในวันนี้จะให้ประชาชนเข้าไปครั้งละ 2 กลุ่ม หรือ 140 คน เพราะจะมีกลุ่มหนึ่งที่ต้องพักคอยอยู่ด้านนอก ซึ่งการจัดคิวแบบนี้สามารถทำให้ประชาชนที่ต่อเเถวอยู่รู้ว่าคิวของเราเองอยู่ตรงไหน

       “เรายังมีคิวพิเศษที่จัดไว้ให้พี่น้องประชาชนที่ชราภาพ และบุคคลที่ร่างกายไม่สมบูรณ์ โดยจะจัดแยกไว้ที่เต็นท์รับรอง จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ลูกเสือรับวิลเเชร์มาเข็นให้ โดยจะพยายามจัดให้เข้าไปข้างในโดยที่ไม่ต้องมานั่งรอคิวนานเพราะเกรงในเรื่องของสุขภาพ แต่ในวันนี้เรายังทำไม่ได้ตามที่วางแผนไว้เพราะสภาพอากาศ และสภาพพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด โดยหวังว่าวันต่อๆ ไปจะอำนวยความสะดวกให้ประชาชนได้ตามที่ตั้งใจไว้ และดียิ่งขึ้น” พล.ต.พงษ์สวัสดิ์กล่าว

       พล.ต.พงษ์สวัสดิ์กล่าวอีกว่า สำหรับการประชุมวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ให้พื้นที่สนามหลวงฝั่งเหนือเป็นพื้นที่พักคอย โดยจะมีการตั้งเต็นท์ให้บริการประชาชน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมาเรียกกลุ่มคิวถัดไปตามลำดับ สำหรับเวลาสิ้นสุดของสำนักพระราชวังยังคงไว้ที่ 21.00 น.เหมือนเดิม เเละจะคำนวณจำนวนบุคคลให้ทราบล่วงหน้าว่าครบ 30,000 คนเมื่อไหร่ก็จะหยุดคิวไว้ก่อน ทั้งนี้ อยากขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ด้วย ส่วนในเรื่องการรักษาความปลอดภัยในบริเวณพื้นที่โดยรอบสนามหลวงนั้น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ รวมถึงเทศกิจ ได้มีการดูแลรักษาความปลอดภัย มีกล้อง CCTV 1,400 ตัว มีรับแจ้งเหตุและระบบจุดคัดกรองจำนวน 8 จุดโดยจะเปิดให้ประชาชนเจ้าออกได้ตั้งแต่เวลา 04.00-21.00 น. หลังจาก 21.00 น.จะเชิญคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่เพื่อที่จะให้ทาง กทม.ได้ทำความสะอาดและจัดระเบียบพื้นที่สนามหลวง

       พล.ต.พงษ์สวัสดิ์กล่าวด้วยว่า ส่วนในเรื่องของการแต่งกายของประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดอย่าได้เป็นกังวล เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่มีความยืดหยุ่นและดูที่เจตนารวมถึงสถานะของแต่ละคน ซึ่งการแต่งกายหากมีชุดแบบไหนก็ใส่แบบนั้นตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และให้ถูกต้องตามหลักวัฒนธรรมหากมีข้อสงสัยให้สอบถามไปที่ กอร.รส. หรือสายด่วน 1899 สำหรับเรื่องการแต่งกายของเพศสภาพในการเข้าถวายสักการะก็ให้แต่งตามเพศสภาพ และหากภายนอกเป็นอย่างไร เช่น เป็นผู้หญิงข้ามเพศก็ให้แต่งตามรูปลักษณ์นั้นซึ่งต้องคำนึงถึงวัฒนธรรมอันดีของสังคมไทยด้วย