ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

พม. เปิดให้บริการสายรัดข้อมือ ณ จุดบริการ “พม. เพื่อพ่อหลวง” พร้อมแนะแนวทางป้องกันและสิ่งที่ควรปฏิบัติ หากเด็กและผู้สูงอายุพลัดหลงหรือหายตัว

วันที่ลงข่าว: 28/10/16

วันที่ 28 ต.ค. 59  เวลา 09.30 น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ : พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า มีประชาชนเป็นจำนวนมากได้เดินทางมาร่วมลงนามถวายอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่พระบรมมหาราชวัง รัฐบาล โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จึงได้จัดตั้งจุดบริการประชาชน “พม. เพื่อพ่อหลวง” ในพื้นที่บริเวณสนามหลวง ฝั่งตรงข้ามวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร เพื่อให้บริการและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ อาทิ เด็ก ผู้สูงอายุ และคนพิการ

 

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า ตนมีความห่วงใยประชาชนที่มาร่วมงาน โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ทั้งผู้สูงอายุ และคนพิการ โดยเฉพาะเด็กที่อาจพลัดหลงกับผู้ปกครอง ในการนี้เพื่อป้องกันการเกิดพลัดหลงดังกล่าว กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้จัดทำสายรัดข้อมือสำหรับเด็กโดยให้ผู้ปกครองเขียนชื่อ-นามสกุลของเด็กและเบอร์โทรศัพท์สามารถติดต่อได้ของผู้ปกครอง ติดไว้ที่สายรัดข้อมือ หากเกิดกรณีการพลัดหลงจะได้สามารถติดต่อได้อย่างรวดเร็วทันเหตุการณ์ โดยประชาชนสามารถมารับสายรัดข้อมือได้ฟรี ณ จุดบริการประชาชน “พม. เพื่อพ่อหลวง” ในพื้นที่บริเวณสนามหลวง ฝั่งตรงข้ามวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร

 

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่ออีกว่า แนวทางในการป้องกันการพลัดหลง สามารถทำได้โดยพ่อแม่ ผู้ปกครองควรให้ข้อมูลกับบุตรหลานให้ทราบถึงบรรยากาศของสถานการณ์และพื้นที่ ควรจะเขียน ชื่อ สกุลของเด็กและเบอร์โทรศัพท์คุณพ่อ คุณแม่หรือผู้ปกครองไว้ในกระเป๋าลูกและบอกให้ลูกหยิบเบอร์โทรศัพท์ให้เจ้าหน้าที่เพื่อช่วยโทรหาคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครอง และแต่งตัวให้บุตรหลานโดยให้มีจุดเด่นสังเกตได้ง่าย เช่น สวมหมวก หรือรองเท้าที่สะดุดตา และมีการถ่ายภาพการแต่งกายของเด็กเก็บไว้เพื่อให้มีข้อมูลรูปพรรณสัณฐานสำหรับติดตามตัว รวมทั้งให้คำแนะนำในการปฏิบัติตนของบุตรหลาน เมื่อเกิดการพลัดหลงกับผู้ปกครองโดยให้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบตำรวจ ทหาร ที่อยู่ใกล้ที่สุด หรือกองอำนวยการ และจุดบริการประชาชน “พม. เพื่อพ่อหลวง” ซึ่งมีบริการดูแลผู้พลัดหลงเพื่อรับความช่วยเหลือ

 

พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หากเกิดการพลัดหลงกันแล้ว สิ่งที่ควรปฏิบัติสำหรับผู้ปกครอง คือเมื่อทราบว่าเด็กพลัดหลงหรือหายตัวไป ให้ผู้ปกครองแจ้งตำรวจเพื่อให้การติดตามและค้นหาทันที และหากต้องการความช่วยเหลืออื่นๆ เพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม โทรสายด่วน 1300 บริการตลอด 24 ชั่วโมง และสำหรับเด็ก หากเกิดการพลัดหลงหรือหายตัวแล้ว การสอนเด็กให้รู้จักวิธีตามหาพ่อ แม่ ผู้ปกครอง จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กมีไหวพริบในการช่วยเหลือตัวเองอีกทางเพื่อให้เจอพ่อแม่และผู้ปกครองได้อย่างรวดเร็วขึ้น

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก