ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

กระทรวงมหาดไทย แจ้งโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านประจำปีงบประมาณ 2560 เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

วันที่ลงข่าว: 28/10/16

             นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ฐานรากตามแนวทางประชารัฐ ประจำปีงบประมาณ 2560 เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ภูมิภาคผ่านโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของหมู่บ้าน หรือการดำเนินกิจการสาธารณประโยชน์ของหมู่บ้าน

โครงการยกระดับศักยภาพหมู่บ้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ เป็นโครงการสนับสนุนงบประมาณในลักษณะเงินอุดหนุนทั่วไปให้แก่หมู่บ้าน หมู่บ้านละ 250,000 บาท จำนวน 74,655 หมู่บ้าน วงเงินรวม 18,663.75 ล้านบาท โดยให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักดำเนินการผ่านคณะกรรมการหมู่บ้านในการจัดทำประชาคมเพื่อคัดเลือกโครงการที่เป็นความต้องการของประชาชนในหมู่บ้าน เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ภูมิภาคของประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ผ่านโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของหมู่บ้านหรือการดำเนินกิจการสาธารณประโยชน์ของหมู่บ้านที่เกี่ยวกับการพัฒนาและสงเสริมการประกอบอาชีพ การผลิตและการตลาดเพื่อเสริมสร้างรายได้ให้กับราษฎรในหมู่บ้าน การพัฒนาสตรี เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุและผู้พิการ การจัดสวัสดิการในหมู่บ้านและการสงเคราะห์ผู้ยากจนที่ไม่สามารถช่วยตนเองได้ การส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การสาธารณสุข การส่งเสริมการศึกษา ศาสนา การบํารุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาและวัฒนธรรมของหมู่บ้าน โดยโครงการและกิจกรรมต้องดำเนินการในพื้นที่ในหมู่บ้าน และต้องได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่ก่อน สำหรับโครงการที่ทำเองให้เบิกจ่ายให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 มกราคม 2560

สำหรับการดำเนินงานของรัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่และปฏิบัติตามหลักการ ทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาที่เรื้อรัง เช่น การขาดแคลนสิ่งสาธารณประโยชน์ หรือชำรุดเสียหาย ปัญหาความเดือดร้อนจากฐานะยากจน หรือด้อยโอกาสทางสังคม คนชรา เด็กกำพร้า หรือผู้ที่เจ็บป่วยเรื้อรัง การช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ให้ประชาชนเกิดความอุ่นใจและรับรู้ว่ารัฐบาลยังมีหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก