ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

บุรีรัมย์ตาวัย 72 พาหลานต่ออายุบัตรคนพิการที่ รพ. ทำเงินเบี้ยผู้สูงอายุคนพิการที่เก็บสะสมไว้กว่า 15,000 บาท หล่นหายวอนคนเก็บได้ส่งคืน

วันที่ลงข่าว: 05/10/16

ตาวัย 72 ชาวบุรีรัมย์พาหลานสาวพิการวัย 6 ขวบ นั่งรถเมย์ไปต่ออายุบัตรคนพิการที่โรงพยาบาล ดวงซวยทำกระเป๋าสตางค์ที่มีเงินสดกว่า 15,000 บาท หล่นหายโดยไม่รู้ตัว โร่แจ้งตำรวจช่วยตามหา พร้อมวอนพลเมืองดีหากเก็บได้ช่วยส่งคืนเพราะเป็นเงินเบี้ยยังชีพคนพิการ เบี้ยผู้สูงอายุ ที่เก็บสะสมไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ผู้สื่อข่าว และประชาชนสงสารให้เงินค่ารถกลับบ้าน

วันนี้ (4 ต.ค. 59) ผู้สื่อข่าวได้สังเกตเห็นสองตาหลานจูงแขนกันเดินไปมา อยู่บริเวณหน้าสถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์อยู่พักใหญ่ โดยคุณตามีท่าทางร้อนรนและสีหน้าทุกข์ใจ จึงได้เดินเข้าไปสอบถามจึงทราบว่า คุณตาคนดังกล่าวชื่อนายแผน แผ้วพลสง อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 74 ม.8 ต.สะแกซำ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อมเล่าให้ฟังว่าช่วงเช้าได้นั่งรถเมย์ออกมาจากบ้าน เพื่อจะพา ด.ญ.อริสา แผ้วพลสง หรือน้องแพม วัย 6 ขวบ หลานสาวซึ่งพิการพูดไม่ได้มาตั้งแต่กำเนิด ไปทำเรื่องต่ออายุบัตรคนพิการที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ แต่พอลงจากรถเมย์จะเดินเข้าโรงพยาบาลก็ล้วงหากระเป๋าสตางค์สีดำ ซึ่งใส่ไว้กระเป๋าเสื้อไม่เจอคาดว่าน่าจะหล่นหายโดยไม่รู้ตัว โดยในกระเป๋าสตางค์ดังกล่าวมีเงินสดอยู่กว่า 15,000 บาท ซึ่งคุณตาได้เก็บสะสมจากเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั้งของตนเอง และภรรยา รวมถึงเงินเบี้ยคนพิการของหลานสาว และเงินที่ลูกชายส่งมาเป็นค่าเล่าเรียนอีกเดือนละ 3,000 บาท พร้อมบัตรประจำประชาชนของตนเองและภรรยา บัตรคนพิการของหลานก็หายไปด้วย จึงได้พาหลานสาวเดินทางมาแจ้งความที่โรงพักให้ช่วยประกาศตามหากระเป๋าตางค์ที่หล่นหาย ด้วยความสงสารและเห็นใจคุณตากับหลานสาว ผู้สื่อข่าว และประชาชนที่ผ่านมาเจอ จึงได้มอบเงินจำนวนหนึ่งเป็นค่ารถให้คุณตา พาหลานสาวเดินทางกลับบ้าน

คุณตาแผน ยังบอกด้วยว่า เงินจำนวนดังกล่าวได้เก็บสะสมมานานกว่า 1 ปีแล้ว เพื่อไว้ใช้ในยามจำเป็นหรือฉุกเฉิน แต่ก็มาหล่นหายโดยไม่รู้ตัว จึงอยากวิงวอนให้ผู้ที่เก็บกระเป๋าตางค์ได้เห็นใจนำมาส่งคืน เพราะเป็นเงินก้อนเดียวที่เหลือติดบ้าน และไม่รู้ว่ากว่าจะครบรอบรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และเบี้ยคนพิการของหลานสาว ก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนใช้จ่ายที่สำคัญต้องดูแลหลานสาวพิการด้วย หากผู้ที่เก็บได้นำมาส่งคืนตนก็พร้อมจะมอบเงินจำนวน 2,000 บาท เป็นสินน้ำใจให้ด้วย

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก

Fatal error: Call to undefined function drupal_get_path() in /usr/local/www/apache22/data/Braille-new/sites/all/modules/better_statistics/better_statistics.module on line 181