ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

“ประยุทธ์” ลั่นใจยังสู้ ชูท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล ทำผู้พิการให้ได้สิทธิเท่าเทียม

วันที่ลงข่าว: 29/09/16

นายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล วันท่องเที่ยวโลก ชี้ เป็นการยอมรับผู้พิการ ช่วยให้ได้รับสิทธิเท่าเทียม ชูไทยมีจุดเด่นหลายด้าน เพิ่มเที่ยวต่อเนื่อง ส่งเสริมชุมชน หวังพัฒนาภายใต้ยุทธศาสตร์ 20 ปี ระบุ ยังต้องดูแลให้ทั่วถึงในหลายด้าน ลั่นใจยังสู้

       

       วันนี้ (27 ก.ย.) ที่โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ เมื่อเวลา 17.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน และกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลของประเทศไทยในบริบทของเวทีโลก โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยินดีที่ได้มาเป็นประธานเปิดงานวันท่องเที่ยวโลก และได้กล่าวปาฐกถาพิเศษในวันนี้ การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวลและการเข้าถึงอย่างเท่าเทียม ถือเป็นแนวคิดหลักของวันท่องเที่ยวโลก ประจำปี 2559 ซึ่งประเทศไทยมีจุดเด่นในหลายด้าน ทั้งการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เชิงนิเวศ และธรรมชาติอนุรักษ์ เชิงการแพทย์และสุขภาพ โดยรัฐบาลได้กำหนดการพัฒนาเขตพื้นที่ท่องเที่ยวเพิ่มเติม เชื่อมโยงกับเขตพื้นที่ท่องเที่ยวเดิมให้สามารถท่องเที่ยวต่อเนื่องได้ รวมทั้งส่งเสริมชุมชนท้องถิ่นให้มีความพร้อม เพื่อขับเคลื่อนให้ประเทศเป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพชั้นนำของโลกที่เติบโตอย่างมีดุลยภาพบนพื้นฐานความเป็นไทย รวมทั้งช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และกระจายรายได้สู่ประชาชนทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน ตามวิสัยทัศน์แผนพัฒนาท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 2 ภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ 20 ปี

       

       “การท่องเที่ยวเป็นกลไกสำคัญช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเมื่อปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวมาไทยกว่า 30 ล้านคน มากเป็นอันดับ 1 ในอาเซียน ทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยกลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และมีอัตราการขยายตัวต่อเนื่องทุกปี สามารถสร้างงาน อาชีพ และกระจายรายได้ให้กับประชาชนทั้งในเขตเมืองและในชนบท” นายกรัฐมนตรี กล่าว

       

       นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ประชากรโลกกว่าร้อยละ 15 เป็นผู้พิการ รวมถึงมีประชากรสูงวัย และเด็กทารก โลกจึงต้องดูแลประชากรกลุ่มนี้ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ขณะเดียวกัน โลกก็ยังให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชนมากยิ่งขึ้น การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล จึงถือเป็นการให้การยอมรับผู้พิการ และช่วยให้ได้รับสิทธิเท่าเทียมและอิสรภาพพื้นฐานเช่นเดียวกันกับบุคคลทั่วไป ทั้งนี้ การเข้าถึงการท่องเที่ยวของคนทั้งมวล ถือเป็นความท้าทายที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต้องเผชิญ และเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจของทุกประเทศ เช่นนี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของโลกจะต้องพัฒนาทั้งในส่วนนโยบาย กรอบกฎหมาย และวิธีการปฏิบัติ โดยมีการวางแผนทั้งระยะสั้น และระยะยาว เพื่อทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการท่องเที่ยวได้อย่างเท่าเทียม ทั่วถึง และเป็นธรรม สำหรับประเทศไทย รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพของผู้พิการอยู่เสมอ รวมทั้งมีมาตรการดูแลและส่งเสริมให้ผู้พิการมีการพักผ่อนหย่อนใจ เดินทางท่องเที่ยว และเล่นกีฬาได้อย่างมีความสุข ตลอดจนพัฒนาสุขภาพและทักษะทางกีฬา

       

       นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โดยเมื่อ พ.ศ. 2544 นายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติได้ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัล Franklin Delano Roosevelt International Disability Award แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในนามของราชอาณาจักรไทยที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาบุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกาย หรือมีความต้องการพิเศษ ซึ่งนับเป็นเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ที่ไทยได้รับจากประชาคมโลก นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้วางนโยบาย ออกกฎหมาย และสร้างมาตรการเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนผู้พิการให้สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในสังคม แม้ว่านโยบายส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพของผู้พิการจะประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม แต่รัฐบาลยังคงต้องให้การดูแลอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ทั้งด้านโครงสร้างทางวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม กฎหมาย การบริหารจัดการ

       

       นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้งนี้ ไทยตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาสู่ความเป็นเมืองในอุดมคติของการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล โดยไม่ทำลายมรดกทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมของชาติ โดยรัฐบาลจะแปลงวิสัยทัศน์นี้สู่การปฏิบัติ ผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางอารยสถาปัตย์แห่งประชาคมอาเซียน โดยรัฐบาลหวังว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างเต็มที่จากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ขอบคุณในนามของประเทศไทย และประชาชนคนไทยทุกคน ที่ได้เลือกประเทศไทยให้เป็นเจ้าภาพการประชุมและการเฉลิมฉลอง “วันท่องเที่ยวโลก 2559” ตลอดจนทุกภาคส่วนที่ร่วมกันสร้างความสำเร็จของงานในวันนี้

       

       ทั้งนี้ ก่อนปาฐกถา บนเวทีได้มีการร้องเพลง “ศรัทธา” ของ นายสมศักดิ์ เหมรัญ หรือกีตาร์มือเดียว ผู้ที่เคยเข้าร่วมการแข่งขันไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ และแสดงการวาดภาพประกอบเพลง โดย นายเอกชัย วรรณแก้ว ศิลปินไร้แขน หรือมนุษย์เพนกวิน คนไทยคนแรกที่ปีนยอดเขาเอเวอเรสต์สำเร็จ จากนั้น นายกฯกล่าวปาฐกถาตอนหนึ่งว่า นักร้องถามตนว่า ใจสู้หรือเปล่า ตนใจสู้อยู่แล้ว และยิ่งมาเห็นพวกท่านยิ่งใจสู้ 2 เท่า แต่สู้ด้วยความสุภาพเรียบร้อย ได้เห็นผู้ที่พิการมาวันนี้ ยินดีและขอบคุณ ใจท่านอาจมีมากกว่าด้วยซ้ำ ไม่ได้ยอมรับโชคชะตา ดังนั้น เราต้องดูแลให้ถึงคนเหล่านี้เข้าถึงโอกาส สร้างความเท่าเทียม

       

       “ผมเข้ามาในเวลาแบบนี้ก็จริง แต่คิดถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน หลักการของตนคือให้เกิดความสงบ เกิดสันติสุข ซึ่งไม่ได้มีสูตรสำเร็จใช้แบบเดียวเหมือนกันหมดทั่วโลก เพราะคนเรามีความแตกต่างกัน ในเรื่องวัฒนธรรม ความคิด แต่หลักสำคัญคือ มีความเป็นประชาธิปไตยเป็นพื้นฐาน เราต้องขจัดความไม่เสมอภาค วันนี้ต้องปรับใจถ้าไม่ชอบหน้าใคร เดี๋ยวก็เจอส่วนดีเขาเอง มีคนที่เราไม่ชอบ เป็นคนไม่ดี ต้องเติมความดีให้เขา จนกว่าเขาเป็นคนดี จะได้ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้ใคร ความแตกแยกจะได้ไม่เกิดขึ้น และเกิดมาในชีวิตหากตนได้ทำอะไรให้คนอื่นมาก ๆ วันข้างหน้าจะได้ภูมิใจ” นายกฯ กล่าว

       

       นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ การท่องเที่ยวถือเป็นรายได้หลักสำคัญของไทย เห็นได้ว่า เขาไว้ใจประเทศไทย ต้องสร้างความเชื่อมโยงทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งการท่องเที่ยวมองแค่วันนี้ไม่ได้ โดยได้วางแผนพัฒนาการท่องเที่ยว 20 ปีข้างหน้า เราต้องเป็นเจ้าบ้านที่ดี รองรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม บนความแตกต่างของแต่ละภูมิภาค และวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวจะช่วยลดความขัดแย้งได้เมื่อคนยิ้มแย้มให้กัน 

 

 

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 27 กันยายน 2559
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก