ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

รัฐบาล ส่งเสริมให้ผู้พิการมีงานทำแล้วกว่า 3 หมื่นราย พร้อมเร่งสร้างความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามกฎหมาย

วันที่ลงข่าว: 19/09/16

 รัฐบาล ส่งเสริมให้ผู้พิการมีงานทำแล้วกว่า 3 หมื่นราย พร้อมเร่งสร้างความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามกฎหมาย และฝากถึงนายจ้าง เปิดใจค้นหาศักยภาพลูกจ้างพิการ อาจทำให้พบกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนสถานประกอบการ

 

พลตรีสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปีนี้รัฐบาลส่งเสริมให้ผู้พิการได้รับการจ้างงานแล้ว 34,601 รายทั้งในหน่วยงานภาครัฐ และสถานประกอบการเอกชน รวมทั้งเร่งประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่นายจ้างในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้พิการ โดยมีสถานประกอบการปฏิบัติตามกฎหมายแล้ว 11,443 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 97.07 ของสถานประกอบการทั้งหมดที่มีลูกจ้าง 100 คนขึ้นไป ซึ่งนายจ้างสามารถนำค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้พิการ และการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้พิการไปหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ 2 เท่าของค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้ของสถานประกอบการ ส่วนสถานประกอบการที่ไม่รับผู้พิการเข้าทำงานตามเงื่อนไขดังกล่าวจะต้องส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมคนพิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเป็นรายปี นอกจากนี้ยังมีโครงการส่งเสริมการรวมกลุ่มของคนพิการ หรือผู้ดูแลคนพิการเพื่อประกอบอาชีพ จำนวน 120 กลุ่ม กลุ่มละ 50,000 บาท โดยจะต้องมีสมาชิก 20 คนขึ้นไป ประกอบอาชีพในพื้นที่มาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน มีแผนการดำเนินงานต่อไปเป็นรูปธรรมชัดเจน และได้รับการคัดเลือกจาก พม. จังหวัด ซึ่งมีผู้ได้รับประโยชน์แล้ว 3,015 คน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี กำชับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) พัฒนาระบบฐานข้อมูลคนพิการให้ครบถ้วนและเชื่อมโยงกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อความสะดวกในการจัดสวัสดิการและการพัฒนาอาชีพแก่คนพิการอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ และฝากถึงผู้ประกอบการให้เปิดใจค้นหาศักยภาพของลูกจ้างพิการ ซึ่งไม่แตกต่างกับคนทั่วไปที่มีข้อจำกัด มีสิ่งที่ทำไม่ได้ และมีสิ่งที่ทำได้เป็นอย่างดีจะช่วยให้ได้กำลังสำคัญในการขับเคลื่อนงานของสถานประกอบการเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้รัฐบาลได้จัดระบบให้ความช่วยเหลือแก่ทั้งนายจ้างที่ประสบปัญหาในการจ้างงานคนพิการ และคนพิการที่ประสบปัญหาการทำงานในทุกกรณีสามารถขอความช่วยเหลือจากนักสังคมสงเคราะห์ได้

ที่มาของข่าว สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก