ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

รบ.เผย นายกฯฝากชมนักกีฬาพาราลิมปิก ย้ำพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการทุกด้าน

วันที่ลงข่าว: 15/09/16

    โฆษก รบ. เผย “ประยุทธ์” ฝากชมนักกีฬาพาราลิมปิก กวาดเหรียญโอลิมปิก ยกคนไทยมีความสามารถไม่แพ้ชาติใด แนะสังคมเปิดโอกาสคนพิการ ย้ำ รบ. ให้ความสำคัญพร้อมอัดฉีดและสนับสนุน พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการทุกด้าน 

       

       วันนี้ (14 ก.ย.) พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิก 2016 ตั้งแต่วันแรก โดยฝากชื่นชมและให้กำลังใจทัพนักกีฬาไทยทุกคนที่ได้ทุ่มเททำผลงานอย่างเต็มที่ ซึ่งเพียงไม่กี่วันสามารถคว้ามาได้หลายเหรียญรางวัล ทั้งเหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดง เป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชีย และ อาเซียน

       

       “ท่านนายกฯ ปรารภว่า คนไทยมีทักษะและความสามารถไม่แพ้ชาติใดในโลก ไม่ว่าคนพิการ หรือคนปกติ ก็มีศักยภาพเสมอกัน มีเกียรติและศักดิ์ศรีในสังคมเช่นเดียวกัน โดยที่ผ่านมา คนพิการได้พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า ทั้งเรื่องกีฬา สิ่งประดิษฐ์ ทักษะฝีมือ ฯลฯ เราไม่เป็นเป็นสองรองใคร จึงอยากให้สังคมร่วมยกย่องในความสามารถของคนพิการ และเปิดโอกาสให้เขาได้แสดงออกเช่นเดียวกันคนทั่วไป”

       

       พลตรี สรรเสริญ กล่าวต่อว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับนักกีฬาคนพิการด้วยการปฏิบัติ ไม่ใช่เพียงแค่กล่าวถึงเพื่อชื่นชมเท่านั้น โดยก่อนเดินทางไปแข่งขันได้มอบเงินเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่นักกีฬาและผู้ฝึกสอน พร้อมทั้งเตรียมเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติมอบให้ผู้ที่ได้รับเหรียญรางวัล และยังสนับสนุนการพัฒนาทักษะส่วนบุคคลและทีมให้สูงขึ้นภายใต้หลักการเดียวกับนักกีฬาปกติ

       

       “นโยบายหลายเรื่องถูกกำหนดขึ้น เพราะรัฐบาลเชื่อมั่นว่า คนพิการไม่ได้ต้องการความเห็นใจ แต่ต้องการความเข้าใจ และไม่ถูกทอดทิ้ง จึงเร่งส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในทุกด้าน เช่น เพิ่มอัตราเบี้ยคนพิการจาก 500 บาท เป็น 800 บาทต่อเดือน กำหนดให้หน่วยงานของรัฐและสถานประกอบการเอกชน ต้องรับคนพิการเข้าทำงาน ในสัดส่วนผู้ปฏิบัติงาน 100 คน ต่อคนพิการ 1 คน ปรับปรุงอารยสถาปัตย์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่คนพิการ และยังส่งเสริมให้คนพิการได้แสดงศักยภาพด้านต่าง ๆ เช่น เล่นดนตรี สร้างผลงานศิลปะ หารายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว รวมทั้งสงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพด้านร่างกาย การศึกษา อาชีพ และสวัสดิการทุกด้านอย่างเสมอภาค เท่าเทียม ทั่วถึง และเป็นธรรม”

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 14 กันยายน 2559
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก