ขณะนี้คุณอยู่ที่ ›

“ประวัติ” สุดปลื้มซิวทองที่ 2 มอบเหรียญนี้ให้คนไทยทั้งประเทศ

วันที่ลงข่าว: 15/09/16

    “ทัพพาราไทย” ฟอร์มแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่จริง ๆ ทำผลงานสุดแจ่ม ผงาดซิวอีก 1 ทอง 2 เงิน 1 ทองแดง “ประวัติ วะโฮรัมย์” โชว์ฟอร์มสุดยอดซิ่งวีลแชร์แชร์คู่ใจเข้าเส้นชัยคนแรก ในประเภทวีลแชร์ 1,500 ม. ที 54 ด้วยเวลา 3.00.62 นาที ผงาดคว้าเหรียญทองที่ 2 ให้ตนเองได้สำเร็จ และเหรียญทองที่สี่ให้ทัพนักกีฬาไทยในครั้งนี้ ด้าน “เจ้าตัว” เผยสุดภูมิใจ ที่คว้าทอง 1,500 ม. ได้เป็นครั้งแรกในชีวิต พร้อมขอมอบเหรียญทองนี้เป็นของขวัญคนไทยทั้งประเทศ ขณะที่ สายชล คนเจน ทำผลงานเฉียบซิ่งเข้าที่ 3 ในรายการเดียวกัน ซิวทองแดง 1 อีกเหรียญ ส่วนวีลแชร์ฟันดาบ “แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ ออกสตาร์ทไม่ดี แต่อาศัยประสบการณ์จนกรุ่ยทางเข้าชิงสำเร็จ ก่อนสุดท้ายต้านแกร่งสาวแดนมังกรไม่ไหว พ่ายในรอบชิง 10-15 คะแนน คว้าเหรียญเงินมาครอง ขณะที่ ยิงธนู หาญฤชัย เนตศิริ ฟอร์มเฉียบไม่แพ้กัน โชว์แผลงศรเข้าชิงได้สำเร็จ แต่ความแม่นสู้หนุ่มอิหร่านไม่ได้แพ้ 3-7 คะแนน คว้าเหรียญเงิน ซึ่งถือเป็นเหรียญรางวัลแรกในกีฬายิงธนู ตั้งแต่ไทยส่งแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ จากผลงานการคว้า 1 ทอง 2 เงิน และ 1 ทองแดง ส่งผลให้ ทัพพาราไทย ทะยานขึ้นไปรั้งอันดับ 19 ของตารางสรุปเหรียญแล้ว พร้อมได้เหรียญทองตามเป้า 4 เหรียญ ที่ “บิ๊กนิดหน่อย” จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานพาราลิมปิกตั้งไว้ก่อนแข่งขัน ขณะเดียวกัน ยังทุบสถิติคว้าเหรียญมากกว่าพาราลิมปิกเกมส์ 2012 เรียบร้อยแล้วหลังเวลานี้คว้ามาได้แล้ว 4 ทอง 3 เงิน และ 3 ทองแดง

       

       ความเคลื่อนไหวการแข่งขันกีฬา “พาราลิมปิกเกมส์ 2016” ที่นครริโอ เดอจาเนโร ประเทศบราซิล เมื่อช่วงเช้าวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา (ตามเวลาไทย) ซึ่งเป็นการชิงชัยเหรียญทองในวันที่ 6 ทัพนักกีฬาไทยยังเดินหน้าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมพาเหรดเข้าไปลุ้นชิงเหรียญรางวัลในหลายชนิดกีฬา ทั้ง กรีฑา, วีลแชร์เรซซิ่ง, วีลแชร์ฟันดาบ และ ยิงธนู และสามารถทำผลงานเก็บเพิ่มได้อีก 1 ทอง 2 เงิน และ 1 ทองแดง

       

       โดยไฮไลต์อยู่ที่ กรีฑา ประเภทวีลแชร์เรซซิ่ง ระยะ 1,500 เมตร คลาสที 54 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งมี 3 นักวีลแชร์เรซซิ่งทีมชาติไทย ประกอบด้วย ประวัติ วะโฮรัมย์ ที่คว้าไปแล้ว 1 ทอง รายการ 5,000 ม., เรวัตร์ ต๋านะ และ สายชล คนเจน ลงล่าเหรียญทองด้วย และในการแข่งขันปรากฏว่า ประวัติ วะโฮรัมย์ ยอดนักซิ่งวีลแชร์ทีมชาติไทย ยังสามารถโชว์ฟอร์มได้สุดสะเด่าซิ่งวีลแชร์คู่เข้าเส้นเป็นอันดับ 1 ได้สำเร็จด้วยเวลา 3.00.62 นาที โดยเฉือนเอาชนะ มาเซล ฮุก ตัวเต็งจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่ซิ่งตามเข้ามาเวลา 3.00.65 นาที ไปเพียงแต่ 0.3 วินาทีเท่านั้น พร้อมคว้าเหรียญทองที่ 4 ให้กับทัพพาราไทยได้สำเร็จ และยังเป็นเหรียญทองที่ 2 ของตัวเองในหนนี้อีกด้วย ส่วนเหรียญทองแดงเป็นของสายชล คนเจน อีกหนึ่งนักซิ่งไทย ที่ควบวีลแชร์เข้ามาเวลา 3.00.86 นาที ขณะที่ เรวัตร์ ต๋านะ โชคร้ายวีลแชร์คว่ำไม่จบการแข่งขัน

       

       ด้าน ประวัติ วะโฮรัมย์ เปิดเผยว่า รู้สึกภูมิใจและดีใจมาก เพราะรายการนี้ตนไม่เคยคว้าเหรียญทองได้ตั้งแต่แข่งมาและนี้เป็นครั้งแรกที่ทำได้ ภูมิใจจริงครับ และตนก็ขอมอบเหรียญทองนี้ให้กับคนไทยประเทศไทยเพื่อเป็นของขวัญครับ ส่วนอีก 2 รายการที่เหลือคือ 800 ม. และ ผลัด 4x400 ม. ตนจะพยายามนำหน้าที่ออกมาให้ดีที่สุดเพื่อคนไทยทั้งประเทศครับ

       

       ยิงธนู เป็นการชิงชัยในประเภท คันธนูโค้งกลับ บุคคลชาย หาญฤชัย เนตศิริ โรบินฮูดหนุ่มทีมชาติไทย ที่มีดีกรีแชมป์โลก ปี 2013 ที่ทำผลงานผ่านรอบคัดเลือกเป็นอันดับที่สอง ลงชิงชัยในรอบน็อกเอาต์ สามารถโชว์แผลงศรยิงได้อย่างแม่นยำต้อนเอาชนะคู่แข่งตั้งแต่รอบ 16 คนสุดท้าย จนสามารถทะยานเข้าสู่รอบชิงได้สำเร็จ เริ่มจากรอบ 16 คนสุดท้าย เอาชนะ ซาดิค ซาวาส จากตุรกี 6-2 คะแนน จากนั้นรอบ 8 คน เอาชนะ แอลเอสซานโดร อีราริโอ จากอิตาลี ขาดลอย 7-1 คะแนน ก่อนที่รอบรองชนะเลิศ จะดับ ลูเซีนโน เรเซนเด้ นักยิงธนูเจ้าถิ่น 6-0 และทะยานเข้าชิงเหรียญทองไปดวลกับ โกลัมรีซา ราฮิมี่ จากอิหร่าน ในรอบนี้ หาญฤชัย พยายามโชว์เพลงศรยิงสู้อย่างเต็มที่แต่สู้ความแม่นของหนุ่มอิหร่านไม่ได้ทำให้พ่ายไป 3-7 คะแนน ทำให้ หาญฤชัย เนตศิริ คว้าเหรียญเงินให้กับทัพได้อีกเหรียญ

       

       วีลแชร์ฟันดาบ ประเภท ดาบเอเป้ บุคคลหญิง คลาสบี ซึ่งมี “แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ ยอดนักวีลแชร์ฟันดาบสาวทีมชาติไทยดีกรีแชมป์เก่าหนที่แล้ว ลงชิงชัยด้วย เริ่มจากการแข่งขันในรอบแรก สายสุนีย์ ออกสตาร์ทได้ไม่ดีนักโดยลงแข่ง 5 นัด ชนะ 3 แพ้ 2 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 คนได้แบบหวุดหวิด ก่อนที่ สายสุนีย์ จะเครื่องเริ่มร้อนโชว์เพลงดาบไล่ฟันได้ยอดเยี่ยมเอาชนะ มาร์ธา มาโควสกา จากโปแลนด์ ได้แบบสบาย 15-5 คะแนน และเอาชนะ ซีมอน เบรียสซี่ เบสเก จากเยอรมัน 15-5 ในรอบรองชนะเลิศ พร้อมทะลุเข้าชิงไปล้างตากับ เหยา จิง จิง นักฟันดาบจากแดนมังกร จีน อีกครั้งหลังจากในรอบแรก สายสุนีย์ แพ้ให้กับ สาวจีนรายมาแบบหวุดหวิด 4-5 คะแนน แต่ในรอบชิงฯ สายสุนีย์ พยายามงัดประสบการณ์การที่มีทั้งหมดออกมาสู้แต่ด้วยร่างกายไม่สมบูรณ์ ทำให้สู้ความคล่องแคล่วของสาวจีนไม่ไหวพ่าย 10-15 ได้เหรียญเงินมาครอง

       

       บ็อคเซีย เป็นการชิงชัยในประเภท บุคคล รอบแรก นัดแรก ซึ่ง 4 นักโยนลูกนิ่มทีมชาติไทย ประกอบด้วย พัทธยา เทศทอง, วรวุฒิ แสงอำภา และ พรโชค ลาภเย็น โดยทั้งหมดสามารถทำผลงานในการประเดิมสนามได้อย่างยอดเยี่ยมเก็บชัยชนะได้ทุกคนในประเภทบุคคลบีซี 1 กลุ่ม เอ พัทธยา เทศทอง ที่พกดีกรีแชมป์เก่ารายการนี้มี 4 ปีที่แล้ว ต้อนเอาชนะ ฟิจิอิ ยูริโกะ จากญี่ปุ่น ขาดลอย 18-0 คะแนน ส่วนประเภทบีซี 2 กลุ่มซี วรวุฒิ แสงอำภา ชนะ จอช โรว์ จากสหราชอาณาจักร 10-0 คะแนน, กลุ่ม ดี วัชรพล วงษา มานูเอล เอาชนะ มาร์ติน เปเรซ จากสเปน 12-2 คะแนน

       

       ด้าน “บิ๊กหน่อย” จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากผลงานในวันที่ผ่านซึ่งนักกีฬาไทยคว้ามาได้อีก 1 ทอง 2 เงิน และ 2 ทองแดง ทำให้เราทำผงานได้เกินกว่าเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว โดยคว้าได้รวม 4 ทอง 3 เงิน และ 3 ทองแดง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากและต้องชื่นชมนักกีฬาทุกคนด้วย ส่วนจากนี้ไปตนยังเชื่อว่านักกีฬาไทยจะทำผลงานคว้าเหรียญทองเพิ่มได้อีกอย่างแน่นอน

       

       จากผลงานของทัพนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ขณะนี้สามารถทำผลงานคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้แล้วทั้งสิน 4 ทอง 3 เงิน และ 3 ทอง ทะยานขึ้นมารั้งอันดับ 19 บนตารางสรุปเหรียญ และทำลายสถิติการคว้าเหรียญรางวัลของทัพกีฬาคนพิการทีมชาติไทย 4 ทอง 2 เงิน 2 ทองแดง ในพาราลิมปิกเกมส์ 2012 ที่ลอนดอน อังกฤษ ลงได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนสถิติคว้าเหรียญรางวัลมากที่สุดของไทย ในพาราลิมปิกเกมส์ เกิดขึ้น ในครั้งที่ 11 ปี 2000 ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ครั้งนั้น ได้ 5 ทอง 4 เงิน 2 ทองแดง 

 

 “ประวัติ” สุดปลื้มซิวทองที่ 2 มอบเหรียญนี้ให้คนไทยทั้งประเทศ

ที่มาของข่าว หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 14 กันยายน 2559
^ กลับสู่เนื้อหาหลัก